• ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP ถูกจำกัดสิทธิ์เข้าสอบเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่พ้นจากหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP
  
  ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP หมายถึง ผู้พัฒนาข้อสอบและผู้ตรวจทานข้อสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP คณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบของสมาคมฯ พนักงานและเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP และพนักงาน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทดสอบที่สมาคมฯ ให้การยอมรับ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP
   
• ผู้มีประวัติฝ่าฝืนระเบียบการสอบ หรือทุจริตการสอบ และอยู่ระหว่างการตัดสิทธิ์การสอบโดยศูนย์ทดสอบ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่สมาคมฯ ให้การยอมรับ ถูกจำกัดสิทธิ์เข้าสอบตามระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิ์การสอบโดยศูนย์ทดสอบ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่สมาคมฯ ให้การยอมรับ

ศูนย์ทดสอบ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่สมาคมฯ ให้การยอมรับ หมายถึง ศูนย์ทดสอบหลักสูตรใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้านการลงทุน หรือการประกันภัย หรือหน่วยงานกำกับดูแลการขึ้นทะเบียนคุณวุฒิวิชาชีพ หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้านการลงทุน หรือการประกันภัย

• ในกรณีที่ผู้สมัครสอบเชื่อว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในข้อคำถาม ผู้สมัครสอบสามารถส่งแบบฟอร์มแจ้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำถามในข้อสอบให้สมาคมฯ ภายใน 5 วันทำการหลังจากวันสอบ สมาคมฯ จะแจ้งยืนยันการได้รับเรื่องดังกล่าวผ่านทางอีเมล์ของผู้สมัครสอบ ทั้งนี้ สมาคมฯ จะไม่แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้สมัครสอบทราบ สมาคมฯ จะพิจารณาและตรวจสอบข้อคำถามที่มีข้อสงสัยภายใน 7 วันหลังจากที่ได้รับแบบฟอร์มดังกล่าว ในกรณีที่ตรวจพบความผิดพลาดในข้อคำถาม สมาคมฯ จะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบเพื่อพิจารณาให้ความเห็นในการแก้ไขข้อคำถามดังกล่าวตามที่เห็นสมควร
• ในกรณีที่ผู้สมัครสอบมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการสอบ ผู้สมัครสอบสามารถส่งแบบฟอร์มแจ้งข้อร้องเรียนการบริหารจัดการสอบให้สมาคมฯ ภายใน 14 วันทำการหลังจากวันสอบ สมาคมฯ จะแจ้งยืนยันการได้รับเรื่องดังกล่าวผ่านทางอีเมล์ของผู้สมัครสอบ ทั้งนี้ สมาคมฯ จะไม่แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้สมัครสอบทราบ สมาคมฯ จะพิจารณาข้อร้องเรียนและแจ้งให้ผู้ให้บริการสอบที่ได้รับอนุญาตของสมาคมฯทราบข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร โดยผู้ให้บริการสอบที่ได้รับอนุญาตของสมาคมฯจะต้องตอบกลับ พร้อมระบุแนวทางปฏิบัติในการปรับปรุงแก้ไขตามข้อร้องเรียนให้สมาคมฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 15 วันหลังจากได้รับจดหมายจากแจ้งข้อร้องเรียนจากสมาคมฯ

• ลักษณะความบกพร่องทางร่างกาย
• ใบรับรองแพทย์ยืนยันความบกพร่องทางร่างกาย

• อนุญาตให้ผู้สมัครสอบสามารถมีผู้ติดตามเข้าห้องสอบได้ แต่ผู้ติดตามไม่มีสิทธิ์ให้ความช่วยเหลือใดๆ เกี่ยวกับการสอบแก่ผู้สมัครสอบ
• เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ทำข้อสอบด้วยตนเอง สมาคมฯ จะจัดผู้คุมสอบเพื่อเป็นผู้ช่วยในการทำข้อสอบโดยปฏิบัติตามสั่งของผู้สมัครสอบ เช่น ใช้เครื่องคิดเลข และบันทึกคำตอบลงในกระดาษคำตอบ
• ให้เวลาในการทำข้อสอบเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมง รวมเป็น 4 ชั่วโมง

สมาคมฯ อาจเปลี่ยนแปลงกำหนดวัน เวลา และเงื่อนไขของการจัดสอบ หรือยกเลิกการสอบบางส่วนหรือทั้งหมดตามที่สมาคมฯ เห็นสมควร เพื่อรักษามาตรฐานการจัดสอบ หรือในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เพลิงไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย หรือการจลาจล เป็นต้น  โดยสมาคมฯ จะแจ้งเลื่อนหรือยกเลิกการจัดสอบโดยเร็วที่สุด ผ่านทาง SMS อีเมล์ และเว็บไซต์ของสมาคมฯ

ทั้งนี้ ในกรณีของการเลื่อนสอบ หากผู้สมัครสอบไม่สะดวกที่จะเข้าสอบตามกำหนดการสอบในรอบถัดไปตามที่สมาคมฯ กำหนด สมาคมฯ จะคืนค่าธรรมเนียมการสอบให้ผู้สมัครสอบเต็มจำนวน

1. กรณีต้องการยื่นข้อร้องเรียนผลการสอบของข้อสอบวางแผนการเงิน ฉบับที่ 1-3 และฉบับที่ 4 ส่วนที่ 1 สามารถกระทำได้หลังจากที่ผู้สมัครสอบได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจข้อสอบใหม่ และรับทราบผลจากสมาคมฯ แล้วเท่านั้น
2. ให้ยื่นข้อร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสมาคมฯ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบ หรือหนังสือแจ้งผลสอบที่ผ่านการตรวจใหม่ (กรณีข้อสอบวางแผนการเงิน ฉบับที่ 1-3 และฉบับที่ 4 ส่วนที่ 1)
3. การยื่นข้อร้องเรียนให้ทำเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรลงลายมือชื่อของผู้สมัครสอบ ระบุเหตุผล ข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริงของการยื่นข้อร้องเรียน
4. ให้ผู้อำนวยการสมาคมฯ แจ้งรับคำข้อร้องเรียนแก่ผู้สมัครสอบ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อร้องเรียน
5. ให้ผู้อำนวยการสมาคมฯ จัดทำรายงานความเห็น พร้อมเหตุผลเสนอคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบเพื่อพิจารณาตัดสินข้อร้องเรียน ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อร้องเรียน โดยพิจารณาว่าการให้คะแนนสอบเป็นไปตามเกณฑ์การให้คะแนนสอบ และเกณฑ์การสอบผ่านที่กำหนดและปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมหรือไม่ (ดูรายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนสอบและเกณฑ์การสอบผ่าน) มติคำตัดสินให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมาก คำตัดสินของคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบถือเป็นที่สุด
6. ให้ผู้อำนวยการสมาคมฯ แจ้งผลการพิจารณาคำตัดสินของคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบให้ผู้สมัครสอบทราบ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบผลคำตัดสินของคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบ

1. ผู้สมัครสอบจะต้องอ่าน “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติและข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” อย่างละเอียด ก่อนเข้าสอบ ในการลงทะเบียนสมัครสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP ถือว่าผู้สมัครรับทราบและยอมรับ “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติและข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” แล้ว และการลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอบทุกชนิด ให้ถือว่าผู้สมัครสอบรับทราบและยอมรับ “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติและข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” เรียบร้อยแล้ว
2. การกระทำที่ถือว่าผิดวินัยการสอบ
   2.1 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรรมการคุมสอบ
   2.2 กระทำการใดๆ ที่เป็นการรบกวนผู้สอบคนอื่นหรือรบกวนการสอบ เช่น
   • การเปลี่ยนที่นั่งสอบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตจากกรรมการคุมสอบ
   • พูดคุยกับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตระหว่างการสอบ

2.3 นำเอกสาร หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบออกจากห้องสอบ
2.4 นำสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าห้องสอบ
2.5 คัดลอกข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เครื่องมือที่ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในห้องสอบ หรือระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน หรือให้คัดลอกคำตอบระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน การแลกเปลี่ยนข้อความที่เกี่ยวข้องกับข้อสอบ การให้ความช่วยเหลือ หรือร่วมมือกันในการกระทำทุจริต ระหว่างการสอบ
2.6 เปิดเผยข้อมูลในข้อสอบให้แก่บุคคลอื่น ให้ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว
2.7 เข้าสอบแทนผู้สมัครสอบ หรือให้ผู้อื่นเข้าสอบแทนตนเอง
2.8 ปลอมแปลงเอกสาร/หลักฐานการสมัครสอบ หลักฐานยืนยันตัวตน
2.9 การกระทำอื่นใดที่สมาคมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืน “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติ และข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” และ/หรือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ข้อสอบ และ/หรือกระทำการใดๆ ที่ส่อในทางทุจริต

3. หากสมาคมฯ ได้รับรายงานว่าผู้สมัครสอบได้กระทำการใดๆ ที่ถือว่าผิดวินัยการสอบ สมาคมฯ จะดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาความผิดวินัยการสอบของสมาคมฯ และหากพบว่าผู้สมัครสอบได้กระทำผิดวินัยการสอบจริง สมาคมฯ จะมีบทลงโทษตามระเบียบของสมาคมฯ และสงวนสิทธิ์ในการรายงานการกระทำความผิดวินัยการสอบของผู้สมัครสอบให้กับองค์กรและหน่วยงานกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องทราบตามที่เห็นสมควร
4. รายการสิ่งของที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ ได้แก่
   4.1 หลักฐานแสดงตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง
   4.2 เครื่องเขียนที่จำเป็น ได้แก่ ดินสอ ยางลบ
   4.3 เครื่องคิดเลขรุ่นที่กำหนด ทั้งนี้ จะต้องล้างข้อมูลเดิมออกทั้งหมดก่อน และไม่อนุญาตให้นำคู่มือและ/หรือการ์ด (Pull-out Card/Keystroke Cards) วิธีการใช้เครื่องคิดเลขที่แนบมากับตัวเครื่องเข้าห้องสอบ
   4.4 ที่อุดหู
   4.5 สิ่งของ “ต้องการพิเศษ” เช่น ยารักษาโรค ผู้สมัครสอบจะต้องแจ้งและได้รับอนุญาตจากกรรมการคุมสอบ ณ วันสอบก่อนการเข้าสอบ ในกรณีที่ผู้สมัครสอบต้องการนำอุปกรณ์/สิ่งของทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อการรักษาโรคเข้าห้องสอบ จะต้องแจ้งให้สมาคมฯ พิจารณาอนุญาตล่วงหน้าก่อนวันสอบหรือโดยเร็วที่สุด

5. ก่อนการสอบและก่อนเข้าห้องสอบ
   5.1 เข้าสอบตรงตามวัน เวลา และสถานที่ ที่ได้ลงทะเบียนสมัครสอบไว้
   5.2 มาลงทะเบียนเข้าสอบก่อนการสอบเริ่มอย่างน้อย 30 นาที และเข้าห้องสอบก่อนเวลาเริ่มสอบอย่างน้อย 15 นาที
   5.3 หากมาสายกว่ากำหนดเวลาเข้าห้องสอบเกิน 30 นาที จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบ
   5.4 แสดงหลักฐานแสดงตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง เพื่อลงทะเบียนเข้าห้องสอบ และต้องไม่บันทึกข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบลงบนเอกสารดังกล่าว
   5.5 อนุญาตให้ผู้สมัครสอบนำสิ่งของตามที่กำหนดไว้ใน “รายการสิ่งของที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ” เท่านั้น และเป็นหน้าที่ของผู้สมัครสอบที่ต้องนำสิ่งของที่จำเป็นที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบได้เพื่อใช้ในการสอบ
   5.6 กรรมการคุมสอบจะเป็นผู้ตรวจสิ่งของทุกชิ้นที่ผู้สมัครสอบนำเข้าห้องสอบ โดยกรรมการคุมสอบมีสิทธิ์จะนำสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าห้องสอบออกจากห้องสอบ รวมทั้งตรวจสอบและ/หรือจดบันทึกเอาไว้ และไม่อนุญาตให้ผู้สมัครสอบเข้าไปในบริเวณที่เก็บสิ่งของเหล่านั้นในระหว่างการสอบ ทั้งนี้ “รายการสิ่งของที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ” หมายถึง สิ่งของทุกชนิดที่ไม่ได้รวมอยู่ใน “รายการสิ่งของที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ”
   5.7 แนะนำให้ผู้สมัครสอบไม่นำสิ่งของมีค่ามาในวันสอบ ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบสามารถเก็บสิ่งของสัมภาระไว้ในบริเวณที่จัดไว้ให้ อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ หรือผู้จัดสอบจะไม่รับผิดชอบ หากสิ่งของและสัมภาระดังกล่าวเสียหาย หรือสูญหาย
6. เมื่อเข้าห้องสอบแล้วและขณะอยู่ในห้องสอบ
   6.1ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรรมการคุมสอบอย่างเคร่งครัด หากผู้สมัครสอบไม่ปฏิบัติตาม “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติและข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” และ/หรือตามคำสั่งของกรรมการคุมสอบ กรรมการคุมสอบจะเชิญผู้สมัครสอบออกจากห้องสอบทันที
   6.2 ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดในเวลาสอบ
   6.3 นั่งตามหมายเลขที่นั่งสอบที่กำหนดไว้ และต้องไม่ลุกจากที่นั่ง ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากกรรมการคุมสอบก่อนเท่านั้น
   6.4 รายการสิ่งของที่อนุญาตให้วางบนโต๊ะที่นั่งสอบ ได้แก่ หลักฐานแสดงตน ดินสอ ยางลบ และเครื่องคิดเลขรุ่นที่กำหนด
   6.5 หากกรรมการคุมสอบตรวจพบสิ่งของที่ไม่ได้อยู่ใน  “รายการสิ่งของที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ” เช่น นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์หูฟัง อุปกรณ์ Bluetooth Power-Bank อุปกรณ์นับก้าว เป็นต้น ผู้สมัครสอบจะต้องนำเก็บใส่ถุงที่เตรียมไว้ให้ และนำวางไว้ใต้โต๊ะที่นั่งสอบ
   6.6 ตรวจสอบความถูกต้องของชุดข้อสอบและกระดาษคำตอบ เขียนชื่อ นามสกุล หมายเลขห้องสอบ และเลขที่นั่งสอบ พร้อมทั้งระบายรหัสประจำตัวสอบของผู้สมัครสอบลงในกระดาษคำตอบให้ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่การสอบเสร็จสิ้นแล้ว หากผู้จัดสอบตรวจพบว่าผู้สมัครสอบกรอกข้อมูลในเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้จัดสอบจะดำเนินการ ดังนี้

• กรณีที่ผู้สมัครสอบมิได้ลงนามที่หน้าปกสมุดคำถาม ผู้จัดสอบจะติดต่อไปยังผู้สมัครสอบ เพื่อแจ้งขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงเรียกเก็บค่าปรับเป็นเงินจำนวน 500 (ห้าร้อย) บาท และเมื่อผู้จัดสอบยืนยันข้อมูลการชำระค่าปรับของผู้สมัครสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้จัดสอบจะดำเนินการตรวจข้อสอบต่อไป
• กรณีที่ผู้สมัครสอบระบายข้อมูลรหัสประจำตัวสอบในกระดาษคำตอบไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ผู้จัดสอบจะทำการติดต่อไปยังผู้สมัครสอบ เพื่อแจ้งขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงเรียกเก็บค่าปรับเป็นเงินจำนวน 500 (ห้าร้อย) บาท และเมื่อผู้จัดสอบยืนยันข้อมูลการชำระค่าปรับของผู้สมัครสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะถือว่าผู้สมัครสอบยินยอมให้ผู้จัดสอบดำเนินการแก้ไขข้อมูลในกระดาษคำตอบให้ถูกต้องครบถ้วน และดำเนินการตรวจข้อสอบต่อไป และให้ถือว่าการดำเนินการของผู้จัดสอบนั้นเป็นที่สุด ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบมีสิทธิยื่นคำร้องขอดูข้อมูลในกระดาษคำตอบที่มีการแก้ไข โดยการให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมายังผู้จัดสอบ
  6.7 ต้องไม่เปิดสมุดคำถามหรือเริ่มทำข้อสอบก่อนได้รับอนุญาตจากกรรมการคุมสอบ
  6.8 เริ่มทำข้อสอบเมื่อกรรมการคุมสอบประกาศหรือให้สัญญาณ “เริ่มทำข้อสอบ”
  6.9 ห้ามพูดคุย หรือซักถามกันระหว่างผู้เข้าสอบในเวลาสอบ และการกระทำใดๆ ที่เป็นการรบกวนผู้สอบคนอื่นระหว่างการสอบ หรือรบกวนการสอบ
  6.10 การคัดลอก หรือให้คัดลอกคำตอบระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน  การแลกเปลี่ยนข้อความที่เกี่ยวข้องกับข้อสอบ การ  เข้าสอบแทนกัน  การให้ความช่วยเหลือหรือร่วมมือกัน ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม  ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าผู้สมัครสอบนั้นได้ร่วมกันกระทำการทุจริต
  6.11 กรณีป่วย หรือต้องการจะลุกออกจากที่นั่งสอบ หรือมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้ห้องน้ำ ให้ยกมือขึ้นและรอจนกว่ากรรมการคุมสอบจะไปที่โต๊ะนั่งสอบของผู้สมัครสอบ แต่จะไม่มีการทดเวลาสอบ
  6.12 ในกรณีที่ผู้สมัครสอบทำข้อสอบเสร็จก่อนเวลาที่กำหนด และต้องการจะส่งข้อสอบ ให้นำเอกสารที่เกี่ยวกับการสอบใส่ลงในซองที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ และให้ยกมือแจ้งกรรมการคุมสอบและนั่งรอจนกว่ากรรมการคุมสอบจะไปเก็บซองเอกสาร
  6.13 เมื่อกรรมการคุมสอบประกาศหรือให้สัญญาณว่าหมดเวลาสอบ ผู้สมัครสอบจะต้องยุติการทำข้อสอบทันที และให้นำเอกสารที่เกี่ยวกับการสอบใส่ลงในซองที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ และนั่งรอจนกว่ากรรมการคุมสอบจะไปเก็บซองเอกสาร
  6.14 ผู้สมัครสอบจะออกจากห้องสอบได้หลังจากเวลาเริ่มสอบผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้ผู้สมัครสอบออกจากห้องสอบ ในกรณีที่เหลือเวลาสอบอีก 5 นาที
  6.15 ผู้สมัครสอบจะต้องคืนสมุดคำถาม กระดาษคำตอบ กระดาษทด รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ทั้งหมด หลังจากหมดเวลาการสอบ และห้ามนำส่วนใดส่วนหนึ่งของเอกสารข้างต้นออกจากห้องสอบ
  6.16 ห้ามนำ หรือพยายามที่จะนำข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการสอบออกจากห้องสอบไม่ว่าจะด้วยวิธีใดหรือรูปแบบใดก็ตาม
  6.17 ต้องไม่ให้ หรือรับความช่วยเหลือแก่ หรือจากบุคคลใดๆ ยกเว้นกรรมการคุมสอบ
  6.18 ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ รับประทานหมากฝรั่ง หรืออาหารทุกชนิดในห้องสอบ

7. เอกสารเกี่ยวกับการสอบทุกชนิด รวมทั้งสมุดคำถาม และกระดาษคำตอบ กระดาษทด รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ทั้งหมด ถือเป็นทรัพย์สินของสมาคมฯ ห้ามผู้สมัครสอบฉีกกระดาษคำถามออกจากสมุดคำถาม หรือนำเอกสารเกี่ยวกับการสอบออกจากห้องสอบเด็ดขาด ทั้งนี้ ในการเข้าสอบ ถือว่าผู้สมัครสอบรับทราบว่าเอกสารเกี่ยวกับการสอบเป็นทรัพย์สินของสมาคมฯ และต้องไม่คัดลอก และ/หรือทำขึ้นใหม่ และ/หรือ ลอกเลียนเอกสารดังกล่าว สมาคมฯ มีสิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมาย หากผู้สมัครสอบนำเอกสารเกี่ยวกับการสอบออกจากห้องสอบ และ/หรือทำขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม
8. เพื่อเป็นการรักษาความลับของข้อมูลคำถามข้อสอบ ห้ามมิให้ผู้สมัครสอบเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลคำถามข้อสอบแก่บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบเพื่อป้องกันการตีความข้อมูลที่ผิดพลาด สมาคมฯ มีสิทธิ์ดำเนินการใดๆ กับบุคคลผู้ซึ่งฝ่าฝืนลิขสิทธิ์ และ/หรือทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับข้อมูลคำถาม เช่น ห้ามเข้าสอบ หรือดำเนินการทางแพ่งและ/หรือทางอาญาตามที่เห็นควร
9. ในกรณีที่ผู้ผ่านการสอบทำการปลอมหนังสือรับรองผลการสอบที่ออกให้โดยสมาคมนักวางแผนการเงินไทยขึ้นทั้งฉบับ หรือบางส่วน โดยเติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารดังกล่าว สมาคมนักวางแผนการเงินไทยอาจพิจารณาให้ผลการสอบ และ/หรือการอบรมในครั้งดังกล่าวเป็นโมฆะ และตัดสิทธิ์ในการเข้าสอบกับสมาคมนักวางแผนการเงินไทยฯ ตามบทลงโทษ ตามกระบวนการพิจารณาความผิดวินัยการสอบของสมาคมนักวางแผนการเงินไทย นับตั้งแต่วันที่สอบ หรืออาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญา
10. ผู้สมัครสอบควรแจ้งให้สมาคมฯ ทราบ หากผู้สมัครสอบถูกร้องขอจากบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลคำถามข้อสอบ
11. การบันทึกคำตอบ
    11.1 เมื่อกรรมการคุมสอบให้สัญญาณเริ่มการสอบ ให้ผู้สมัครสอบเลือกคำตอบที่คิดว่าถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว  แล้วใช้ดินสอ 2B ระบายตัวเลือก j หรือ k หรือ l หรือ m ให้ชัดเจน หากผู้สมัครสอบต้องการเปลี่ยนคำตอบ จะต้องลบตัวเลือกเดิมด้วยยางลบดินสอให้สะอาดก่อน แล้วจึงระบายตัวเลือกใหม่ตามที่ต้องการ
    11.2 คำถามแต่ละข้อ สามารถเลือกตอบได้เพียงหนึ่งตัวเลือกเท่านั้น หากตอบมากกว่าหนึ่งตัวเลือกจะถือว่าตอบผิด     ถึงแม้ว่าหนึ่งในคำตอบที่เลือกนั้นจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
    11.3 บันทึกคำตอบลงในกระดาษคำตอบเท่านั้น หากบันทึกคำตอบลงในสมุดคำถาม จะไม่ได้คะแนน
    11.4 หากตอบผิด ไม่มีการหักคะแนน
12. หลังจากที่ผู้สมัครสอบลงทะเบียนสมัครสอบแล้ว สมาคมฯ สงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการลงทะเบียนสมัครสอบ และหากผู้สมัครสอบไม่เข้าสอบตามรอบสอบที่ได้ลงทะเบียนสมัครสอบไว้ จะถือว่าผู้สมัครสอบขาดสอบ

ผู้สมัครสอบที่ไม่สามารถเข้าสอบตามวัน และเวลาที่ลงทะเบียนสมัครไว้ได้ เนื่องจากป่วย หรือเหตุจำเป็นอื่น สามารถยื่นคำขอพิจารณาคืนค่าธรรมเนียมการสอบ โดยกรอก “แบบฟอร์มคำขอพิจารณาคืนค่าธรรมเนียมการสอบ หลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” พร้อมแนบเอกสารตามที่กำหนด ส่งมาที่สมาคมฯ ทางไปรษณีย์ภายใน 10 วันหลังวันสอบ โดยพิจารณาจากวันที่ประทับตราไปรษณีย์ ระยะเวลาการพิจารณาคำขอภายใน 90 วันทำการนับจากวันสอบ ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคืนค่าธรรมเนียมการสอบเป็นรายกรณี รวมทั้งจำนวนค่าธรรมเนียมการสอบที่จะคืนให้ผู้สมัครสอบ 

13. สมาคมฯ อาจเปลี่ยนแปลงกำหนดวัน เวลา และเงื่อนไขของการจัดสอบ หรือยกเลิกการสอบบางส่วนหรือทั้งหมดตามที่สมาคมฯ เห็นสมควร เพื่อรักษามาตรฐานการจัดสอบ หรือในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เพลิงไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย หรือการจลาจล เป็นต้น  โดยสมาคมฯ จะแจ้งเลื่อนหรือยกเลิกการจัดสอบโดยเร็วที่สุด ผ่านทาง SMS อีเมล และเว็บไซต์ของสมาคมฯ ทั้งนี้ ในกรณีของการเลื่อนสอบ หากผู้สมัครสอบไม่สะดวกที่จะเข้าสอบตามกำหนดการสอบในรอบถัดไปตามที่สมาคมฯ กำหนด สมาคมฯ จะคืนค่าธรรมเนียมการสอบให้ผู้สมัครสอบเต็มจำนวน

ในกรณีที่ผู้สมัครสอบกระทำ หรืองดเว้นการกระทำใดๆ ตามข้อ 5 – 10  รวมถึงกระทำการอื่นๆ ที่สมาคมนักวางแผนการเงินไทย หรือผู้จัดสอบของสมาคมฯ เห็นว่าเข้าข่ายหรือมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต  อาจพิจารณาให้ยุติการสอบ หรือไม่ตรวจข้อสอบในการสอบครั้งนั้น  และ/หรือตัดสิทธิ์ในการเข้าสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP กับผู้จัดสอบทุกราย ตามบทลงโทษในกระบวนการพิจารณาความผิดวินัยการสอบของสมาคมนักวางแผนการเงินไทย  นับตั้งแต่วันที่ได้กระทำหรืองดเว้นการกระทำใดๆ ที่ถือเป็นการละเมิดเงื่อนไข ข้อปฏิบัติและข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP

1. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรรมการคุมสอบ
2. กระทำการใดๆ ที่เป็นการรบกวนผู้สอบคนอื่นหรือรบกวนการสอบ เช่น
   • การเปลี่ยนที่นั่งสอบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตจากกรรมการคุมสอบ
   • พูดคุยกับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตระหว่างการสอบ
3. นำเอกสาร หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบออกจากห้องสอบ
4. นำสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าห้องสอบ
5. คัดลอกข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ  เครื่องมือที่ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในห้องสอบ หรือระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน หรือให้คัดลอกคำตอบระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน การแลกเปลี่ยนข้อความที่เกี่ยวข้องกับข้อสอบ การให้ความช่วยเหลือ หรือร่วมมือกันในการกระทำทุจริต ระหว่างการสอบ
6. เปิดเผยข้อมูลในข้อสอบให้แก่บุคคลอื่น ให้ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว
7. เข้าสอบแทนผู้สมัครสอบ หรือให้ผู้อื่นเข้าสอบแทนตนเอง
8. ปลอมแปลงเอกสาร/หลักฐานการสมัครสอบ หลักฐานยืนยันตัวตน
9. การกระทำอื่นใดที่สมาคมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืน “เงื่อนไข ข้อปฏิบัติ และข้อตกลงการสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP” และ/หรือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ข้อสอบ และ/หรือกระทำการใดๆ ที่ส่อในทางทุจริต

• คณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบจะพิจารณาและตัดสินการกระทำผิดวินัยการสอบ ภายใน 30 วันทำการหลังจากที่ได้รับเรื่องจากผู้อำนวยการสมาคมฯ
• คณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบจะยกเลิกคำร้องเรียนหากพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องเรียนไม่ควรถือเป็นข้อกล่าวหาการกระทำผิดวินัยการสอบ และแจ้งให้ผู้สมัครสอบทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
• หากคณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องเรียนถือเป็นข้อกล่าวหาการกระทำผิดวินัยการสอบ จะแจ้งการนัดสอบสวนให้ผู้สมัครสอบทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
• ผู้สมัครสอบจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำร้องเรียนให้คณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบทราบ ภายใน 30 วันทำการนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งนัดสอบสวน
• หากผู้สมัครสอบไม่ตอบกลับภายใน 30 วัน คณะอนุกรรมการมาตรฐานการสอบอาจพิจารณาตัดสินบทลงโทษในทันทีตามที่เห็นสมควร และเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพเพื่อให้คำวินิจฉัยสุดท้าย
• มติคำตัดสินของที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมาก ในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีสิทธิ์ออกเสียงอีก 1 เสียงเพิ่มเติมจากเดิมที่ได้ออกเสียงไปแล้วในครั้งแรก
• คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอาจเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการมาตรฐานจรรยาบรรณและประสบการณ์การทำงานเพื่อพิจารณา หากเห็นว่ามีการกระทำใดๆ ที่อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดทางวินัยด้วย
• ผู้อำนวยการสมาคมฯ จะแจ้งผลการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพให้ผู้สมัครสอบทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำตัดสินของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ

4. บทลงโทษ

5. การอุทธรณ์

• ผู้สมัครสอบที่ถูกสั่งลงโทษสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ หากเห็นว่ามีการตีความตาม “กระบวนการพิจารณาความผิดวินัยการสอบ” หรือข้อท็จจริงผิดพลาดซึ่งไม่เช่นนั้นแล้วคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอาจมีคำตัดสินเป็นอย่างอื่น
• ผู้ยื่นอุทธรณ์จะต้องยื่นอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุเหตุผลของการยื่นอุทธรณ์ ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ ภายใน 30 วันทำการหลังจากได้รับหนังสือแจ้งผลคำตัดสินจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
• คณะกรรมการอุทธรณ์จะพิจารณาวินิจฉัยคำขออุทธรณ์ โดยถือเอาคะแนนเสียงข้องมาก พร้อมชี้แจงเหตุผลประกอบ ภายใน 15 วันทำการหลังจากที่ได้รับหนังสือขออุทธรณ์ ทั้งนี้ มติคำวินิจฉัยคำขออุทธรณ์ของที่ประชุมคณะกรรมการอุทธรณ์ถือเป็นที่สุดและผู้สมัครสอบไม่มีสิทธิ์ยื่นขออุทธรณ์อีก
• ผู้อำนวยการสมาคมฯ จะแจ้งผลคำวินิจฉัยและคำสั่งของคณะกรรมการอุทธรณ์ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ทราบผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์

• สมาคมฯ จะเก็บรักษาข้อมูลการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน และ/หรือการอุทธรณ์ตามกระบวนการการพิจารณาความผิดวินัยการสอบไว้เป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
• ทั้งนี้ สมาคมฯ สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้สมัครสอบและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน  และ/หรือการอุทธรณ์ตามกระบวนการการพิจารณาความผิดวินัยการสอบได้ตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด หรือหากได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีเขตอำนาจที่เหมาะสม
• สมาคมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดเผยหรือประกาศข้อมูลผลคำตัดสินการกระทำผิดวินัยการสอบ ได้แก่ การกระทำผิดวินัยการสอบ หรือบทลงโทษ ผ่านทางสื่อต่างๆ ตามที่สมาคมฯ เห็นสมควร
• สมาคมฯ สามารถแจ้งข้อมูลผลคำตัดสินการกระทำผิดวินัยการสอบให้บุคคลอื่นๆ รับทราบ เช่น นายจ้าง เพื่อนร่วมงาน และหุ้นส่วนของผู้สมัครสอบ รวมทั้งหน่วยงานกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP และที่ปรึกษาการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ AFPT (รวมเรียกว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน”) และผู้สมัครสอบหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณและความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน (“จรรยาบรรณ”) ซึ่งกล่าวถึงมาตรฐานหลักปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน

ในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณดังกล่าว ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินตกลงที่จะให้บริการวางแผนการเงินโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ และปฏิบัติตามมาตรฐานจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพอย่างเคร่งครัด รวมทั้งตกลงที่จะรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของวิชาชีพวางแผนการเงินเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม

ในการประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นต่อลูกค้าและตกลงที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานจรรยาบรรณในการให้บริการวางแผนการเงินแก่ลูกค้า ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน

จรรยาบรรณแต่ละข้อเป็นข้อความที่กล่าวถึงมาตรฐานจรรยาบรรณโดยทั่วไปที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินพึงปฏิบัติในการประกอบวิชาชีพ โดยมีรายละเอียดคำอธิบายสำหรับจรรยาบรรณแต่ละข้อเพิ่มเติม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมและได้รับการยอมรับ

จรรยาบรรณดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินเป็นผู้ที่ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสาธารณชน ลูกค้า เพื่อนร่วมวิชาชีพ และนายจ้าง รวมทั้งใช้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และการดำเนินกิจกรรมร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนการเงิน สมาคมฯ กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณดังกล่าว โดยได้กำหนดหลักปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน (Rule of Conduct for CFP/AFPT Professionals) เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในรายละเอียดเพิ่มเติม

จรรยาบรรณ 1 คำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ (Client First)
ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับแรก
การให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ และไม่ถือเอาประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของลูกค้า

จรรยาบรรณ 2 การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม (Integrity)
ประกอบวิชาชีพด้วยความหนักแน่นและมั่นคงในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม
การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมจำเป็นต้องอาศัยความซื่อสัตย์สุจริตและความตรงไปตรงมา เนื่องจากผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้า ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม ยกเว้นในสถานการณ์ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย แต่ต้องไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการตั้งใจหลอกลวงหรือการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัว ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมทั้งโดยหลักการที่เป็นลายลักษณ์อักษรและเจตนา

จรรยาบรรณ 3 ความเป็นกลาง (Objectivity)
ประกอบวิชาชีพด้วยความเป็นกลาง
ความเป็นกลางจำเป็นต้องอาศัยความเที่ยงธรรม ความไม่ลำอียง ไม่ว่าผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะให้บริการแก่ลูกค้าในรูปแบบหรือสถานการณ์ใดก็ตาม ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางเพื่อให้บริการอย่างถูกต้องและชอบธรรม จัดการกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และตัดสินใจเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ

จรรยาบรรณ 4 ความเป็นธรรม (Fairness)
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและมีเหตุมีผลกับลูกค้า นายจ้าง และผู้เกี่ยวข้อง เปิดเผยและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการให้บริการ
ความเป็นธรรม หมายถึง การให้บริการแก่ลูกค้าตามแบบอย่างที่ลูกค้าสมควรได้รับ หรือตามที่ลูกค้าคาดหวังจากผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน การมีความซื่อสัตย์สุจริต และการเปิดเผยความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รวมถึงการให้บริการโดยปราศจากความรู้สึกส่วนตัว ไม่มีอคติ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน การปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกันกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อตนเอง

จรรยาบรรณ 5 ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)
ปฏิบัติตนอย่างเป็นมืออาชีพ
ความเป็นมืออาชีพ หมายถึง ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อลูกค้า เพื่อนร่วมวิชาชีพ และผู้ที่อยู่ในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินอย่างเหมาะสม ประพฤติตนอย่างเป็นมืออาชีพ รวมทั้งต้องให้ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมวิชาชีพในการสร้างและรักษาไว้ซึ่งภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนและบทบาทในการรักษาผลประโยชน์สาธารณะ

จรรยาบรรณ 6 ความรู้ความสามารถ (Competence)
มีความรู้และทักษะในการประกอบวิชาชีพ
ความรู้ความสามารถไม่ได้หมายความเฉพาะแค่ระดับความรู้ ทักษะ และความสามารถที่เพียงพอต่อการให้บริการแก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการมีสติปัญญาในการรับรู้ข้อจำกัดของตนเอง และการยอมรับคำปรึกษาหรือการแนะนำลูกค้าให้บุคคลอื่นตามความเหมาะสม และการหมั่นเพิ่มพูนความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง

จรรยาบรรณ 7 การรักษาความลับ (Confidentiality)
ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า
การรักษาความลับ หมายถึง การเก็บรักษาและปกป้องข้อมูลของลูกค้า โดยสามารถเปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้าเท่านั้น การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจำเป็นต้องอาศัยการรักษาความลับข้อมูลของลูกค้าโดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าอย่างไม่เหมาะสม

จรรยาบรรณ 8 ความใส่ใจระมัดระวัง (Diligence)
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความใส่ใจระมัดระวัง
ความใส่ใจระมัดระวัง หมายถึง การให้บริการอย่างรวดเร็วและละเอียดรอบคอบ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการวางแผนและการควบคุมดูแลการให้บริการอย่างเหมาะสมด้วย

ประมวลจรรยาบรรณและความผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน และหลักปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน

1. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่สื่อสารไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมกับลูกค้าหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมกับขอบเขตความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของตนหรือการให้บริการของตนอย่างไม่ถูกต้องหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
2. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่ทำให้ลูกค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับจากการให้บริการการวางแผนการเงิน
3. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริการวางแผนการเงินทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจผิด
4. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่ปฏิบัติตนในลักษณะที่เป็นการทุจริต ฉ้อโกง หลอกลวง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือเจตนาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อลูกค้า หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
5. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องหารือกับลูกค้าถึงรายการทรัพย์สินของลูกค้า (ถ้ามี) ที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะเป็นผู้เก็บรักษา มีอำนาจตัดสินใจลงทุน หรือมีอำนาจควบคุมดูแล
6. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องบันทึกและปรับปรุงข้อมูลรายการกองทุนหรือทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งหมดของลูกค้าที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินเป็นผู้เก็บรักษาหรือมีอำนาจในการใช้ดุลยพินิจแทน
7. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องแบ่งแยกทรัพย์สินของลูกค้าออกจากทรัพย์สินของตน นายจ้าง หรือของลูกค้ารายอื่นๆ ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือได้รับความเห็นชอบและถูกระบุไว้ในข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างทั้งสองฝ่าย รวมทั้งต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแต่ละรายด้วย
8. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องให้บริการโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
9. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างยุติธรรม และให้บริการเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพด้วยความเป็นกลางและยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม
10. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่ให้อคติส่วนบุคคลหรือผลประโยชน์ส่วนตัวมีผลต่อบริการที่มอบให้แก่ลูกค้า
11. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องให้คำแนะนำ และ/หรือจัดทำแผนการเงินที่เหมาะสมกับลูกค้า
12. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องให้คำแนะนำเฉพาะด้านที่ตนมีความรู้ความสามารถ หากเป็นด้านที่ตนไม่มีความชำนาญ จะต้องปรึกษาผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและ/หรือแนะนำลูกค้าให้ติดต่อกับบุคคลดังกล่าวแทน
13. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องหมั่นเพิ่มพูนความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
14. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องมีความรอบรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านการวางแผนการเงิน และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ความสามารถในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินอย่างต่อเนื่อง
15. ในการให้บริการวางแผนการเงินแบบบูรณาการ หรือการวางแผนการเงินเฉพาะเรื่อง ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ต่อลูกค้าเป็นลายลักษณ์อักษร
    • รายละเอียดที่ถูกต้องและชัดเจนเข้าใจง่ายของสัญญาค่าตอบแทนซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะได้รับ ได้แก่ ข้อมูลค่าใช้จ่ายต่างๆ ของลูกค้า รูปแบบและแหล่งที่มาของค่าตอบแทนของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน และ/หรือบริษัทนายจ้าง และข้อกำหนดที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน และ/หรือบริษัทนายจ้างจะสามารถได้รับค่าตอบแทนจากแหล่งอื่นๆ ได้ พร้อมระบุแหล่งที่มาของค่าตอบแทน รวมทั้งวิธีการคิดค่าตอบแทนดังกล่าว
    • รายละเอียดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างลูกค้ากับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน บริษัทนายจ้าง หรือหน่วยงานอื่น หรือบุคคลอื่น ได้แก่ ข้อมูลความสัมพันธ์ทางครอบครัว ทางสัญญา หรือทางธุรกิจ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน หรือบริษัทนายจ้างที่อาจมีผลต่อความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ
    • ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน หรือบริษัทนายจ้างที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการขอรับบริการวางแผนการเงิน
    • ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการทราบเพื่อใช้กำหนดขอบเขตและลักษณะความสัมพันธ์ ได้แก่ ข้อมูลขอบเขตความรู้ความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน เป็นต้น
    • ข้อมูลติดต่อของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน และบริษัทนายจ้างทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยทันที
16. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่กู้ยืมเงินจากลูกค้า ยกเว้นในกรณีดังนี้
    • ลูกค้าเป็นบุคคลที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน
    • ลูกค้ามีสถานะเป็นหน่วยงานธุรกิจที่ให้บริการกู้ยืมเงิน และการกู้ยืมดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการวางแผนการเงินของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน
17. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่ให้ลูกค้ากู้ยืมเงิน ยกเว้นในกรณีดังนี้
    • ลูกค้าเป็นบุคคลที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน
    • ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินเป็นลูกจ้างของหน่วยงานธุรกิจที่ให้บริการกู้ยืมเงิน และเงินที่ให้กู้ยืมดังกล่าวต้องเป็นเงินของหน่วยงานธุรกิจ โดยต้องไม่เป็นเงินของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน
18. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไว้เป็นความลับ ยกเว้นในกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย และข้อกำหนดตามระเบียบข้อบังคับ หรือตามหน้าที่ที่ตนมีต่อบริษัทนายจ้างหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหาการกระทำความผิด หรือต้องกระทำการใดๆ แทนลูกค้า
19. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปกป้องรักษาข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สินของลูกค้าที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินเป็นผู้ดูแลให้ปลอดภัยด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ทั้งนี้ หมายรวมถึงข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งในรูปเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
20. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องให้บริการแก่ลูกค้าโดยใช้วิจารณญาณในตัดสินใจอย่างรอบคอบและสมเหตุสมผล
21. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดตามระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการวางแผนการเงิน
22. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะลูกจ้างหรือตัวแทน ต้องให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพเพื่อให้บริษัทนายจ้างบรรลุวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย และปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณและความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินของสมาคมฯ
23. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงที่ทำกับสมาคมฯ ได้แก่ การใช้เครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP และเครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพที่ปรึกษาการเงิน AFPT อย่างถูกต้อง รวมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพของสมาคมฯ อย่างเคร่งครัด
24. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ของสมาคมฯ เช่น  เกณฑ์การพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพอย่างต่อเนื่องเพื่อดำรงสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP และเครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ AFPT
25. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องแจ้งข้อมูลการกระทำที่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญา หรือการถูกสั่งพัก หรือถูกเพิกถอนคุณวุฒิวิชาชีพให้สมาคมฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 10 วันทำการนับจากวันที่ได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าว
26. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ไปรษณีย์ให้สมาคมฯ ทราบ ภายในระยะเวลาที่สมาคมฯ กำหนด
27. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลเสียต่อการยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมหรือความเหมาะสมในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน ต่อเครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP และเครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพที่ปรึกษาการเงิน AFPT หรือต่อคุณวุฒิวิชาชีพวางแผนการเงิน
28. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องให้บริการแก่ลูกค้าอย่างรอบคอบและทันเวลา
29. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องศึกษาและประเมินประเภทของสินค้าและบริการที่จะแนะนำให้แก่ลูกค้าอย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับขอบเขตของข้อตกลงการให้บริการวางแผนการเงินกับลูกค้า ทั้งนี้ อาจอ้างอิงกับผลการศึกษาและผลประเมินที่จัดทำโดยหน่วยงานอื่นที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้
30. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องควบคุมดูแลหรือให้คำแนะนำผู้ใต้บังคับบัญชา หรือบุคคลที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินมอบหมายความรับผิดชอบในการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างรอบคอบและระมัดระวัง
31. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องส่งคืนทรัพย์สินของลูกค้าตามที่ถูกร้องขอในทันทีที่ทำได้หรือตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในข้อตกลงการให้บริการวางแผนการเงินกับลูกค้า
32. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินและลูกค้าต้องเห็นชอบร่วมกันถึงบริการที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะนำเสนอ
33. ในการบริการวางแผนการเงินแบบบูรณาการ หรือการวางแผนการเงินเฉพาะเรื่อง ก่อนที่จะจัดทำข้อตกลงกับลูกค้า ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องจัดทำข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือหารือกับลูกค้าในประเด็นต่างๆ ดังนี้
    • หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน และลูกค้าตามข้อตกลง ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าตามลำดับก่อนหลัง การรวบรวมข้อมูลของลูกค้าและการให้ข้อมูลอย่างเพียงพอ การวิเคราะห์และประเมินการดำเนินกิจกรรมทางการเงินในปัจจุบันของลูกค้า การจัดทำและนำเสนอคำแนะนำการวางแผนการเงินที่ได้ตกลงไว้กับลูกค้า และการติดตามแผนการเงิน
    • ค่าตอบแทนที่คู่สัญญาหรือองค์กรของคู่สัญญาในข้อตกลงจะได้รับหรือสามารถได้รับตามข้อกำหนดในข้อตกลงการให้บริการวางแผนการเงิน และปัจจัยหรือข้อกำหนดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้า รวมทั้งประโยชน์ที่ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินจะได้รับจากข้อกำหนดดังกล่าว
    • ข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินในการแนะนำสินค้าที่มีกรรมสิทธิ์
    • ข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินในการใช้บริการจากหน่วยงานหรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อตกลง
    • ขั้นตอนการยกเลิกข้อตกลง
    • ขั้นตอนการยุติข้อร้องเรียนหรือการฟ้องร้องของลูกค้า
34. ในการบริการวางแผนการเงินแบบบูรณาการ หรือการวางแผนการเงินเฉพาะเรื่อง ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน หรือบริษัทนายจ้างต้องจัดทำข้อตกลงการให้บริการวางแผนการเงินเป็นลายลักษณ์อักษร (“ข้อตกลง”) ที่ระบุรายละเอียดดังนี้
    • บทบาทของแต่ละฝ่ายตามข้อตกลง
    • วันที่จัดทำข้อตกลงและอายุของข้อตกลง
    • วิธีและเงื่อนไขในการยกเลิกข้อตกลง
    • ขอบเขตการให้บริการตามข้อตกลง
35. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องพยายามที่จะสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจคำแนะนำการวางแผนการเงินเพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลอย่างเพียงพอในการตัดสินใจ
36. ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องรับทราบและปฏิบัติตามหลักปฏิบัติการวางแผนการเงินที่สอดคล้องกับขอบเขตของข้อตกลงการให้บริการวางแผนการเงินแก่ลูกค้า
37. ในการให้บริการวางแผนการเงินแก่ลูกค้า ผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงินต้องรับทราบและปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณและความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพวางแผนการเงิน

เครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP ได้แก่ CFP^® CERTIFIED FINANCIAL PLANNER^TM และ  ที่ใช้ภายนอกประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นลิขสิทธิ์ของ FPSB และได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายเครื่องหมายการค้า สมาคมฯ เป็นหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการเครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP ในประเทศไทยตามข้อตกลงกับ FPSB บุคคลที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การขึ้นทะเบียนคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP ที่สมาคมฯ กำหนด จะได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายดังกล่าว

• คู่มือการใช้เครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพนักวางแผนการเงิน CFP
• คู่มือการใช้เครื่องหมายรับรองคุณวุฒิวิชาชีพที่ปรึกษาการเงิน AFPT