บทความ: ภาษีและมรดก
ไม่จ่ายภาษี โดนลงโทษอะไรบ้าง
โดย ยุทธภูมิ เกียรติอุ้มสม นักวางแผนการเงิน CFP®
การวางแผนทางการเงินเป็นกิจกรรมที่ครอบคลุมและเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเงินของแต่ละบุคคล ทำให้เกิดความมั่นคงในชีวิตและตอบสนองต่อความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของแต่ละบุคคลได้i ซึ่งประกอบไปด้วย แผนการลงทุน แผนการประกัน แผนเพื่อวัยเกษียณ และแผนทางภาษี ภาษีถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของการประกอบกิจการ นอกจากการเพิ่มรายได้เพื่อให้มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นแล้ว การลดต้นทุนด้วยการวางแผนทางภาษีก็เป็นการเพิ่มรายได้สุทธิด้วยเช่นกัน ดังนั้นแผนทางภาษีจึงมีความสำคัญและการวางแผนภาษีได้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดจะช่วยลดภาระทางภาษีได้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นภาษีอากรประเภทหนึ่งที่จัดเก็บจากบุคคลธรรมดาโดยกรมสรรพากรii ซึ่งรัฐบาลนำภาษีที่จัดเก็บได้ไปใช้รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ จัดบริการสาธารณะที่เอกชนไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจายความมั่งคั่งอย่างยุติธรรม โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถูกจัดเก็บตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 31 มีนาคมด้วยการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ 91 และวันที่ 1 กรกฎาคมถึงวันที่ 30 กันยายนด้วยการยื่นแบบภ.ง.ด. 94 ของทุกปี หากผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรiii ย่อมทำให้เกิดความรับผิดทางแพ่งและทางอาญา กรณีต่าง ๆ ดังนี้
บทกำหนดโทษทางแพ่ง เป็นความรับผิดที่ต้องถูกบังคับให้ชำระหนี้ iv กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ประมวลรัษฎากรได้กำหนดหน้าที่ของผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีความรับผิดดังต่อไปนี้
1. กรณีผู้ต้องเสียภาษีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานประเมินจะออกหมายเรียกมาไต่สวน หรือสั่งให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นมาแสดงเพื่อตรวจสอบ และประเมินให้ถูกต้องตามพยานหลักฐานที่ปรากฎหรือประเมินตามที่รู้ว่าถูกต้อง ซึ่งผู้ต้องเสียภาษีต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของจำนวนภาษีที่ต้องชำระv
2. กรณีผู้ต้องเสียภาษีเงินได้ไม่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี เจ้าพนักงานประเมินจะออกหมายเรียกมาไต่สวน หรือสั่งให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นมาแสดงเพื่อตรวจสอบvi และประเมินให้ถูกต้องตามพยานหลักฐานที่ปรากฎหรือประเมินตามที่รู้ว่าถูกต้อง ซึ่งผู้ต้องเสียภาษีต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับสองเท่าของจำนวนภาษีที่ต้องชำระvii นอกจากนี้ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาทจากการไม่ยื่นแบบเสียภาษีภายในเวลาที่กำหนดไว้viii
3. นอกจากเบี้ยปรับตามแต่กรณีที่กล่าวมาแล้ว ผู้ต้องเสียภาษีเงินได้ต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องเสียโดยไม่รวมเบี้ยปรับ แต่เงินเพิ่มนั้นไม่เกินจำนวนภาษีทั้งหมดที่ต้องเสียix
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีอีกวิธีที่เป็นผลดีและเป็นการลดปัญหาความยุ่งยากทางกฏหมาย คือ ให้ฝ่ายบิดาทำพินัยกรรมระบุชื่อบุตรดังกล่าวเป็นทายาทที่ได้รับมรดกตามพินัยกรรมจะทำให้บุตรนอกกฏหมายสามารถรับมรดกตามเจตนาและความต้องการของฝ่ายบิดาได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น ผู้ต้องเสียภาษีไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม เจ้าพนักงานประเมินทำการตรวจสอบและมีหมายเรียกให้นำพยานหลักฐานต่าง ๆ มาแสดงเพื่อตรวจสอบ ณ วันที่ 15 มิถุนายน และปรากฎว่ามีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียจำนวน 100,000 บาท ผู้ต้องเสียภาษีต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับสองเท่าของจำนวนภาษีที่ต้องชำระจากการไม่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีจำนวน 200,000 บาท และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่ม โดยนับจากวันที่ 31 มีนาคมซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ต้องยื่นเสียภาษีประจำปีถึงวันที่ 15 มิถุนายนเป็นเวลา 2 เดือนกับอีก 15 วัน ผู้ต้องเสียภาษีต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนจากภาษีเงินได้ที่ต้องเสีย 100,000 บาทเป็นจำนวน 1,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งสิ้น 3 เดือนเป็นจำนวน 4,500 บาท และต้องระวางโทษปรับจากการไม่ยื่นแบบเสียภาษีภายในกำหนดเวลาอีก 2,000 บาท ดังนั้นผู้ต้องเสียภาษีต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับจากการไม่ยื่นแบบเสียภาษีภายในกำหนดเวลาจำนวนทั้งสิ้น 306,500 บาท
บทกำหนดโทษทางอาญา เป็นความรับผิดที่มีลักษณะผูกพันต่อตัวบุคคลไม่ใช่ทรัพย์สินx ได้แก่ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สินxi กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ประมวลรัษฎากรได้กำหนดหน้าที่ของผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีความรับผิดดังต่อไปนี้
1. กรณีจงใจไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกคำสั่งของเจ้าพนักงานประเมิน หรือไม่ยอมตอบคำถามเมื่อซักถาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับxii ดังต่อไปนี้
- 1.1 เจ้าพนักงานประเมินเรียกให้มาชำระภาษีเงินได้ที่คงค้าง หรือเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี และเรียกให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอันจำเป็นในการจัดเก็บภาษีเงินได้ที่คงค้าง ซึ่งต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
- 1.2 เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกผู้ต้องเสียภาษีมาไต่สวน กรณียื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีไม่ถูกต้อง และให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นมาแสดง ซึ่งต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
- 1.3 คณะกรรมการอุทธรณ์ออกหมายเรียกผู้ต้องเสียภาษีที่ทำการอุทธรณ์มาไต่สวน และให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นมาแสดง ซึ่งต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน
- 1.4 คณะกรรมการอุทธรณ์ออกหมายเรียกผู้ต้องเสียภาษีที่ทำการอุทธรณ์มาไต่สวน และให้นำพยาน บัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นมาแสดง ซึ่งต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน
2. กรณีเจตนาแจ้งข้อความเท็จ ให้ถ้อยคำเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง หรือโดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีอากร หรือขอคืนภาษีอากร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปีและปรับตั้งแต่สองพันถึงสองแสนบาทxiii
3. กรณีเจตนาไม่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับxiv
นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงไม่แสดงรายการเสียภาษี หรือยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีไม่ถูกต้องที่มีจำนวนตั้งแต่สิบล้านบาทต่อปีภาษีขี้นไป รวมทั้งการขอคืนเงินภาษีอากรที่มีจำนวนตั้งแต่สองล้านบาทต่อปีภาษีขึ้นไป โดยกระทำในลักษณะที่เป็นกระบวนการหรือเป็นเครือข่าย และมีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ให้ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ตรีอย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 8/2564 มีคำวินิจฉัยว่าบทบัญญัติดังกล่าวเพิ่มภาระและจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเกินสมควรแก่เหตุจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 37 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ดังนั้นประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ตรี ที่ให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจึงไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป
การวางแผนภาษีมีความจำเป็นต่อการบริหารกระแสเงินสดและความมั่งคั่งของบุคคล เพื่อให้เกิดความมั่นคงและตอบสนองต่อความต้องการและเป้าหมายในชีวิต แต่อย่างไรก็ตามการวางแผนภาษีต้องกระทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่วางแผนด้วยการหลบหลีก (Avoidance) คืออาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยง (Evasion) คือใช้วิธีที่ผิดกฎหมายxv เพราะนอกจากจะมีบทลงโทษทางแพ่งด้วยการเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มแล้ว ยังมีบทลงโทษทางอาญาที่มีโทษจำคุก ส่งผลต่อความมั่นคงและกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการในชีวิตอย่างแน่นอน ดังนั้นการวางแผนภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนดจึงมีความสำคัญและเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล
บรรณานุกรม
ประมวลรัษฎากร.
ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม, คำสอนวิชากฎหมายภาษีอากร (พิมพ์ครั้งที่ 13, สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา 2563).
ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, หลักสูตรการวางแผนการเงิน: ชุดวิชาที่ 1 พื้นฐานการวางแผนการเงิน (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มปป.).
สุเทพ พงษ์พิทักษ์, การวางแผนภาษีอากร (สำนักงานวิชิตา ทนายความ บัญชีและธุรกิจ 2541).
สมเกียรติ วรปัญญาอนันต์, ความรู้กฎหมายทั่วไป กฎหมายในชีวิตประจำวัน (พิมพ์ครั้งที่ 2, โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2561).
ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th