บทความ: ลงทุน
ความเสี่ยงที่ควรรู้
โดย อแลง อัมรินทร์ รักชู ที่ปรึกษาการเงิน AFPT™
ปัจจุบัน การลงทุน “สินทรัพย์ดิจิทัล” กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นต่อเนื่อง แต่ก็มีคำถามตามมาว่านักลงทุนมีความจำเป็นในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่
ถ้าตอบแบบฟันธงเลย คือ ไม่จำเป็นต้องลงทุนก็ได้ เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ทางเลือก แม้ว่าจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงแต่ความผันผวนก็สูงตามไปด้วย ดังนั้น หากต้องการลงทุน นักลงทุนควรมีคุณสมบัติดังนี้
1. รับความเสี่ยงได้สูง เนื่องด้วยความผันผวนที่สูง และยังมีเรื่องความโปร่งใสของกระดานซื้อขาย ความโปร่งใสของผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น
(ราคาบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2010 - 2022 จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนสูงจริง แต่บางปีก็ติดลบหนักมาก)
(ข้อมูลจาก www.sofi.com)
2. ชอบเรียนรู้ตลอดเวลา การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีเครื่องมือที่ใช้เฉพาะเจาะจง บางอย่างเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเจอ หรือมีการอัพเดทเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว ทำให้จะต้องเรียนเรื่องใหม่ ๆ ตลอด
3. ต้องมีการบริหารหน้าตักที่ดี เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ถ้าบริหารหน้าตักไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาได้
ถ้าจะลงทุน ลงทุนอะไรได้บ้าง
1. คริปโทเคอร์เรนซี คือ เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เช่น
บิตคอยน์
2. โทเคนดิจิทัล จะมีย่อยลงไปอีก 2 ประเภท
- - โทเคนเพื่อการลงทุน สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ์ในการร่วมลงทุนในโครงการ มีสิทธิ์ในการแบ่งผลกำไร
- - โทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ์ในการได้รับสินค้าหรือบริการ
3.NFT (Non Fungible Tokens) เป็นโทเคนดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่แสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผล งานศิลปะต่างๆ ของสะสม หรือ สินทรัพย์ต่างๆ รวมถึง ที่ดิน สิ่งของในโลกเสมือน (Metaverse)
(ภาพ EtherRock ขายไปในราคาประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ)
(ภาพจาก https://siamblockchain.com/)
4. ทำฟาร์ม (Yield Farming) คล้ายๆ กับการที่เราเอาเงินไปฝากกับธนาคารแล้วได้รับผลตอบแทนมาในรูปแบบของดอกเบี้ย และ ค่าธรรมเนียม
5. ทำเหมือง ไม่ใช่ให้เราไปขุดจริงๆในเหมืองนะครับ แต่เป็นการขุดด้วยการแก้สมการ โดยการใช้เครื่องขุด ถ้าใครแก้ได้ก็จะได้รางวัล (โทเคน) ตอบแทนไป
(ภาพตัวอย่างการขุดบิตคอยน์ ภาพจาก https://siamblockchain.com/)
6. Staking เป็นการที่เราเอาเหรียญไป Stake ไว้เพื่อใช้ในการยืนยันธุรกรรม โดยผลตอบแทนจะมาในรูปแบบดอกเบี้ย
(ตัวอย่างบางส่วนของผู้ได้รับใบอนุญาต ข้อมูลจาก https://www.sec.or.th/)
เมื่อเลือกกระดานซื้อขายได้แล้วสิ่งต่อมาที่ต้องเลือกคือเหรียญที่เราจะเข้าไปลงทุนต้องไปอ่าน White Paper ให้รู้ก่อนว่าเหรียญนี้สร้างมายังไง สร้างมาแก้ปัญหาอะไร มีจำนวนจำกัดรึเปล่า แล้วก็ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้พัฒนา มีใครสนับสนุนบ้าง สุดท้ายเราต้องทำข้อมูลที่ได้มาตัดสินใจ ประเมินมูลค่าของเหรียญ สำหรับคนที่คิดจะถือยาวอาจจะต้องพิจารณาซื้อCold Wallet เพื่อเก็บเหรียญซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า Hot Wallet
ถ้าเลือกที่จะทำฟาร์มก็ต้องเลือก platform ที่มีความน่าเชื่อถือ มีคนใช้เยอะๆ (ไม่ได้บอก ว่าใช้เยอะแล้วจะไม่เจ๊ง แค่แนวโน้มดูดีกว่า) ผลตอบแทนไม่สูงจนเกินไป ถ้าสูงเกินไปเราต้องตั้งคำถาม ว่าทำไมถึงให้ผลตอบแทนเรามากขนาดนี้ จะเอาที่ไหนมาจ่ายให้เรา เหรียญที่จะเอาไปฟาร์มก็ต้องดูด้วยนะ
ทำเหมืองก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน เครื่องที่ซื้อมาตกรุ่น ขุดได้ช้า คืนทุนช้า ราคาเหรียญที่ขุดราคาตก ค่าไฟที่ใช้ในการขุดไม่คุ้ม ต้องคำนวณดี ๆ ก่อนทำการลงทุนไม่งั้นอาจจะเจ็บตัวได้
ของแถมส่งท้าย ถ้าเรารู้ว่าเราไม่มีเวลามากนัก หรือ เลือกลงทุนไม่เก่ง เราสามารถลงทุนในกองทุนที่ลงทุนเกี่ยวกับส่งที่เราสนใจแทนได้
ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th