logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: เกษียณ

เริ่มต้นวางแผนเกษียณ…สำหรับวัยเริ่มทำงาน

โดย ไพจิตร สิงหาโชติ ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTM

 

คุณ…เคยคิดมั้ยว่าวันที่คุณเกษียณ อยากจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่?

 

คุณ…เคยคิดมั้ยว่ารายได้ที่มีในวันนี้ หากนำไปใช้จ่าย ณ วันหลังเกษียณแล้ว มูลค่าจะเหลือเท่าไหร่?

 

คุณ…เคยคิดมั้ยว่าเงินในวันนี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แล้วค่อยนำออกมาใช้จ่ายหลังเกษียณไปแล้ว จะดีแค่ไหน?

 

คุณ…เคยคิดมั้ยว่า ณ วันที่เริ่มทำงาน เราต่อรองเงินเดือนได้ เราเลือกอาชีพตาม Passion หรือสิ่งที่เราอยากจะเป็นได้


แต่ ณ วันเกษียณ คุณอาจไม่มีตัวเลือกมากนัก คุณมีเงินเหลือเท่าไหร่จากการสะสมในช่วงชีวิตการทำงาน ก็ต้องบริหารจัดการใช้เท่านั้น…ให้เพียงพอตลอดสิ้นอายุขัยของคุณ แต่หากเตรียมเงินไม่พอใช้จ่าย แล้วคุณจะเป็นผู้สูงวัยที่ไม่มีเงินเลย และไม่มีโอกาสใช้ชีวิตตามที่วาดฝันไว้

 

ณ วันนี้จะดีแค่ไหน หากคุณมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และคุณสามารถจัดสรรเงินบางส่วนมาเตรียมพร้อมสำหรับการวางแผนเกษียณ แล้วคุณควรจะจัดสรรเท่าไหร่ดีละ จะจัดสรรเงินออมน้อยไปก็กลัวไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ จะออมมากไปก็เกรงว่าจะขาดการเติมเต็มความสุขในช่วงวัยทำงาน ลองมาดูวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณจัดสรรเงินบางส่วนออกมาเตรียมไว้สำหรับการเกษียณ และก็ยังสามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่าง Happy ในแต่ละช่วงวัยได้อีกด้วย

 

การตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ดีต้องมีหลัก "SMART" คำๆ นี้ หลายคนอาจจะคุ้นหู แต่ผู้เขียนอยากจะ Focus ไปในเรื่องการวางแผนเป้าหมายทางการเงินสำหรับการเกษียณของวัยเริ่มทำงานให้ชัดเจน และจัดการได้ง่ายขึ้น ลองมากำหนดเป้าหมายกันดูค่ะ

 

S: Specific กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร... คุณวางแผนจะเกษียณ ณ ตอนอายุ 55 ปี 60 ปี หรือ 65 ปี เพื่อจะได้ดูว่าคุณมีเวลาเตรียมเงินนานเท่าไหร่ สำหรับการเกษียณ

 

M: Measurable เลือกเป้าหมายที่วัดผลได้ เป็นตัวเลขชัดเจน... ณ วันเกษียณ คุณจะมีเงิน 5 ล้านบาท 10 ล้านบาท หรือ 15 ล้านบาท เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเกษียณสุข

 

A: Achievable เป้าหมายนั้นต้องทำสำเร็จได้ ภายใต้ปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้... เมื่อเรามีวิธีการ หรือช่องทางการเก็บออมเงิน และสร้างดอกผลให้เงินเติบโตได้

 

R: Realistic เป้าหมายนั้นเป็นไปได้ สมเหตุสมผล สอดคล้องสถานการณ์กับความเป็นจริง... หากเราทราบสถานะทางการเงิน และข้อจำกัดต่างๆ ในปัจจุบันว่าเราสามารถทำได้หรือไม่ ก็จะทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงได้ในอนาคต

 

T: Time-bound เป้าหมายต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน.. การกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน ทำให้เราสามารถทราบความเป็นไปได้ และเป้าหมาย ณ วันเกษียณของเราไม่ลอยเลื่อนออกไป

 

ลองมาดูเคสง่ายๆ ในการออมสำหรับคนที่อายุแตกต่างกัน

 

กำหนดเป้าหมายเกษียณ ณ อายุครบ 60 ปี และต้องการมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี (นั่นคือ ณ วันเกษียณอยากเตรียมเงินไว้สักราวๆ 7.2 ล้านบาท)

 

การคำนวณมูลค่าเงินตามเวลา (TVM: Time Value of Money) หากต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี จะคำนวณเงินที่ต้องเตรียม ณ วันเกษียณ เท่ากับ 5,972,332 บาท

 

หมายเหตุ: คำนวณโดยใช้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนหลังเกษียณเฉลี่ย 5% ต่อปีและปรับลดด้วยอัตราเงินเฟ้อ 3% ต่อปี

 

ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ต้องทำยังไงต่อ … คนแต่ละวัย ต้องเก็บออมเงินอย่างไร? เพื่อเป้าหมายที่ 7.2 ล้านบาทเท่ากัน ณ วันเกษียณครบอายุ 60 ปี (วาดภาพประกอบ)

 

 

ตารางเป้าหมายมีเงิน 7.2 ล้านบาท ณ วันเกษียณอายุ 60 ปี ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่เท่ากัน

 

วัยเริ่มต้นเก็บออม

ระยะเวลาก่อนเกษียณ

ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี

ต้องออมเงินปีละ

(บาท)

เฉลี่ยรายเดือน

(บาท)

วัยอายุ 25 ปี

35 ปี

8%

41,784

3,482

วัยอายุ 40 ปี

20 ปี

8%

157,336

13,111

วัยอายุ 55 ปี

5 ปี

8%

1,227,286

102,274

 

เหนื่อย! มั้ยคะ คุณ C กับเป้าหมายของคุณอีก 5 ปี ที่จะเกษียณยังคงจะเป็นไปได้มั้ย คุณจะควบคุมรายได้ให้ยังคงสามารถกันเงินไปออมได้อีกหรือไม่ หรือคุณต้องเลื่อนเป้าหมายเกษียณออกไปอีก 65 ปี 66 ปี 67 ปี หรือ 70 ปี หากคิดในมุมบวกว่าองค์กรของคุณยังจ้างคุณอยู่นะ เพื่อให้คุณเก็บออมเงินได้เพียงพอ หรือคุณต้องลดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณลงจากเดือนละ 30,000 บาท เป็นเหลือเพียงเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพชีวิตจะไม่เท่าเดิมกับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แน่นอน

 

การคำนวณตัวอย่างข้างต้น ผู้เขียนยังมองในมุมบวกว่า ทุกช่วงอายุยังได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่เท่ากัน คือ 8% ต่อปี แต่ในความเป็นจริงเรายังคงต้องบริหารเงินที่นำไปออม หรือจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเราด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

ตารางเป้าหมายมีเงิน 7.2 ล้านบาท ณ วันเกษียณอายุ 60 ปี ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ตามระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

 

วัยเริ่มต้นเก็บออม

ระยะเวลาก่อนเกษียณ

ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี

ต้องออมเงินปีละ

(บาท)

เฉลี่ยรายเดือน

(บาท)

วัยอายุ 25 ปี

35 ปี

10%

26,566

2,214

วัยอายุ 40 ปี

20 ปี

8%

157,336

13,111

วัยอายุ 55 ปี

5 ปี

5%

1,303,019

108,585

 

ด้วยวัยที่เริ่มต้นเก็บออมตั้งแต่อายุ 25 ปี สามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่า หากจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี เงินที่ใช้ออมต่อเดือนก็จะลดลงไปด้วย เหลือเพียงเดือนละ 2,214 บาท

 

หากคุณเริ่มต้นออมที่อายุมากขึ้น ระยะเวลาเก็บออมเงินที่สั้นลง ยิ่งต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่ปกป้องเงินต้น หรือรับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง หากได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี หรือน้อยกว่านี้ คงต้องเหนื่อยกับการเก็บออมต่อเดือนที่สูงขึ้นตามไปด้วย มาถึง ณ จุดนี้ ผู้เขียนเองอยากจะย้อนเวลา ไปเริ่มออมเงินใหม่ตั้งแต่วัยเริ่มทำงานเลยซะทีเดียว … แต่ก็คงทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น

 

จากตัวอย่างของการเริ่มเก็บออมในแต่ละช่วงวัย คงจะตอบได้ชัดเจนว่าใครมีเป้าหมายทางการเงินตามหลัก "SMART" และการออมเงินเพื่อการเกษียณให้ได้เป้าหมายที่วางไว้ คงจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้อ่านที่เริ่มเก็บออมเงินตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงาน โดยการออมเงินเพียงหลักพันบาทต่อเดือน เป็นประจำสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาการทำงาน 35 ปี ก็ทำให้เป้าหมายการเกษียณ ณ อายุ 60 ปี เป็นจริงได้ และหากมีความเข้าใจในการจัดสรรพอร์ตที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงยิ่งขึ้นด้วย โดยผู้เขียนขอยกตัวอย่างกลุ่มวัยเริ่มทำงาน เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านวัยนี้ได้เข้าใจมากขึ้น

 

สำหรับพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมในวัยเริ่มต้นทำงาน (ช่วงอายุ 20 – 30 ปี) ส่วนใหญ่คนในวัยนี้จะยังโสด เป็นวัยที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในหนี้สินเรื่องบ้านและภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวมากนัก

 

ที่มา : https://www.set.or.th/setinthecity/2018/manual/day1_slot1430.pdf

 

หากจัดสรรพอร์ตการลงทุนดังภาพข้างต้น จะพบว่า ผู้อ่านในวัยนี้ มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี เพียงแค่คุณลงทุนและเก็บออมให้นานเกิน 10 ปี โดยการเริ่มต้นออมเร็วขึ้น เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะให้มูลค่าของเงินเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

แนวทางการออมเงินสำหรับการเกษียณ มีให้เลือกลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) สำหรับลูกจ้างองค์กรเอกชน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สำหรับข้าราชการ แล้วยังมีการลงทุนตามความสมัครใจอื่นๆ ทั้ง กองทุน RMF SSF แบบประกันบำนาญ (Annuity Plan) ที่ล้วนได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีควบคู่ไปด้วย หรือหากผู้อ่านสามารถจัดพอร์ตรับความเสี่ยงได้สูงขึ้นอีก เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น เพิ่มการลงทุนในกองทุนรวม (Mutual Fund) และหุ้นสามัญ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามผู้อ่านต้องทำความเข้าใจและหมั่นศึกษารูปแบบของสินทรัพย์ที่ตนเองจะนำเงินไปลงทุนด้วย

 

ท้ายที่สุด เพื่อให้เป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นไปตามหลัก SMART ผู้อ่านก็ต้องหมั่นทบทวนพอร์ตการลงทุนของตนเองเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยต้องนำมูลค่าเงินตามเวลา (Time Value of Money) มาพิจารณาร่วมด้วย หากมีปัจจัยเหนือการควบคุมเข้ามากระทบกับแผนการเกษียณของเราในระหว่างทาง…เราจะได้ปรับแผนได้ทันสถานการณ์มากขึ้น

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th