logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ประกันภัย

เข้าใจง่าย สบายใจ กับค่าใช้จ่ายของแบบประกัน Unit-Linked ฉบับลูกค้า

โดย ณรงค์ศักดิ์ พิริยะพงศ์ นักวางแผนการเงิน CFP®

 

การเลือกทำประกันชีวิตในปัจจุบันนี้ ที่มีการระบาดของโรค Covid-19 ซึ่งขยายเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้ทุกคนหันมาพิจารณาเรื่องของประกันชีวิตและประกันสุขภาพมากขึ้น โดยแบบประกันชีวิตที่มีความน่าสนใจแบบหนึ่งในปัจจุบันคือ ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือเรียกย่อๆ ว่า “แบบประกัน Unit-linked” โดยมีความเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบประกันชีวิตรูปแบบเดิมๆ ที่ให้เราตัดสินใจหลักๆ เพียงแค่ 4 เรื่อง คือ ความคุ้มครองที่ต้องการ เบี้ยประกันที่จ่าย ระยะเวลา และผลประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับ โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือ เราต้องมีความเข้าในการลงทุน ความเสี่ยง และค่าการประกันภัย (Cost of Insurance ) เพราะผลตอบแทนจากการลงทุน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง วันนี้ผู้เขียนขอแนะนำการเตรียมความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแบบประกัน เพื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้อย่างถูกวิธี

 

โดยเบี้ยที่ชำระในแบบประกัน Unit-Linked จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ

 

ส่วนที่ 1 เป็นค่าความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ประกันชีวิตกำหนด โดยผู้ขอเอาประกันภัยสามารถเลือกสัดส่วนความคุ้มครองได้ตามความต้องการ โดยมีศัพท์ทางประกันเรียกว่า ค่า Cost of Insurance หมายถึงอัตราการเสี่ยงภัยที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการรับประกันสำหรับวงเงินเอาประกันภัย โดยค่า COI จะเพิ่มขึ้นจากสองปัจจัย คือ อายุ และทุนประกันที่เราเลือก ยิ่งอายุและการเลือกทุนประกันสูงเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะสูงตามไปด้วย โดยบริษัทจะอ้างอิงค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขความเสี่ยงที่บริษัทได้รับ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละบริษัท) และนำเพื่อไปคำนวณจากตารางมรณะไทย (อ้างอิง https://www.oic.or.th/th/consumer/25) และบริษัทจะเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการนำเงินในส่วนนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินประเภทต่างๆ

 

ส่วนที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามกรมธรรม์ที่บริษัทเรียกเก็บ เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าดูแลรักษากรมธรรม์ และค่าบริการในการลงทุน ซึ่งจะกำหนดแตกต่างกันไปแล้วแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัท ซึ่งเราในฐานะที่เป็นลูกค้า อาจสอบถามข้อมูลค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บตลอดอายุสัญญากรมธรรม์ และส่งผลอย่างยิ่งในการคิดคำนวนเงินที่จะนำไปลงทุนในส่วนที่ 3 เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้สูงย่อมส่งผลให้เงินที่จะนำไปลงทุนของเราในแต่ครั้งที่ชำระเบี้ยไปน้อยลงนั่นเอง

 

ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่จัดสรรเข้าไปเป็นการลงทุนตามสัดส่วนที่ผู้ขอเอาประกันภัยเลือก ซึ่งบริษัทประกันชีวิตจะนำไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตามคำสั่งของผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทที่รับจัดการเงินดังกล่าว จัดการหน่วยลงทุนให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีกรมธรรม์ของผู้เอาประกันภัย

 

ส่วนที่ 3 นี่เองที่เราจะเป็นผู้เลือกลงทุนได้เองตามกองทุนที่บริษัทได้ทำการคัดเลือกมาให้ ดังนั้น ส่วนที่ได้มาลงทุนมากหรือน้อยจะต้องขึ้นกับปัจจัยสำคัญคือ เราพิจารณาเลือกกำหนดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ 1 และบริษัทประกันคิดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ 2 เท่าไหร่ เช่น เลือกทุนประกันสูง ค่าการประกันภัยก็จะสูง จะส่งผลเงินในส่วนที่ 3 จะน้อยลงไป เป็นต้น ดังนั้น เราจะไม่สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนใน Unit-Linked กับการลงทุนในกองทุนรวมได้ เพราะเงินลงทุนส่วนหนึ่งได้ถูกหักไปเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนการประกันภัยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น แต่ถ้าเป็นการเปรียบเทียบกับประกันแบบทั่วไป ยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เพราะสามารถเลือกบริหารการลงทุนผ่านกองทุนรวมเองได้ และเมื่อใช้ระยะเวลามากขึ้น ความเสี่ยงในการลงทุนย่อมมีโอกาสที่จะลดลง ทั้งนี้ ในการนำเสนอผลตอบแทนของเงินในส่วนนี้ ตัวแทนมักจะนำเสนอผลตอบแทนที่คาดหวัง เช่น 5% คงที่ตลอด เป็นต้น ไม่ใช่ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง ผู้ที่เลือกซื้อจึงควรพิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลัง และความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนที่นำเสนอมาเปรียบเทียบด้วย

 

แบบประกัน Unit-Linked เป็นแบบประกันที่มีการรายงานสรุปข้อมูลการดำเนินงาน ให้กับผู้เอาประกันทราบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนับเป็นข้อดีที่เราสามารถบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับเมื่อมีความเข้าใจเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ในรูปแบบของประกัน Unit-Linked กันมากขึ้น จึงควรเลือกใช้ข้อมูลนี้ ในการวางแผนตอบสนองเป้าหมายในชีวิต ทำให้ทุกย่างก้าวในการดำเนินชีวิตมีความมั่นคง และรักษาความมั่งคั่งไปในเวลาเดียวกัน

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th