logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: เกษียณ

เรือนเกษียณสุข

โดย ผาณิต เกิดโชคชัย นักวางแผนการเงิน CFP®

 

คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา นักแสดงวัย 72 ปี มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเกือบ 50 ปี เป็นคนมีเสน่ห์ สุขุม และมีอารมณ์ขันได้ให้ทัศนะการใช้ชีวิตหลังอายุหกสิบในรายการชีวิตดี๊ดี Life’s so good ที่ไร่ทองจันทร์ ทำให้เห็นความสุขแบบง่ายๆ ที่ชอบและใช่ สมดุลทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมว่า “...เริ่มจากค้นหาตนเอง...อยู่เงียบๆ และลองอยู่คนเดียวให้ได้...จะได้รู้จักฝากตัวเองไว้กับตัวเองแล้วจะค้นหาตัวเราเองจริงๆ ...” การรู้จักอุปนิสัยและความต้องการที่แท้จริงจากวิถีชีวิตในปัจจุบันและที่ตั้งใจไว้ในอนาคตตามที่เป็นจริง จะช่วยให้สามารถทำได้จริง และสามารถจดจ่อกับความสุขเล็กๆ ที่ชื่นชอบในช่วงเวลาหนึ่ง และใช้เวลาที่เหลือทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่นและสังคมโดยรวม เป็นความสุขความภูมิใจที่ย้อนกลับมาสู่ตัวเอง

 

อยู่กินแบบไหนเรียกว่า “เกษียณสุข”

 

แต่ละคนต่างมีคำตอบ “ความสุขหลังเกษียณ” ที่ชอบและใช่แตกต่างกัน เพราะความต่างในเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ สังคม สุขภาพกายและใจ ประสบการณ์ สติระลึกรู้จักตัวเอง ซึ่งที่อยู่หลังเกษียณเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้เกิดผลตามที่หวัง มีงานวิจัยว่าด้วยความต้องการที่อยู่ของผู้เกษียณระบุว่า ผู้เกษียณส่วนใหญ่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยและอุ่นใจที่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตตามที่ตนหวัง การเตรียมพร้อมเพื่อ “เรือนเกษียณสุข”ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพร้อมด้านการเงินเป็นสิ่งที่ลงมือทำทันทีได้ด้วยตัวเอง

 

มี “เรือนเกษียณสุข” อะไรให้เลือกบ้าง

 

ในยุค “เบบี้บูม” (คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2507 หรือในยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2) จากเดิม ครอบครัวไทยมีลักษณะเป็น “ครอบครัวใหญ่ประกอบด้วยสมาชิก 3 ช่วงวัย” คือ มีปู่ย่าตายาย พ่อแม่และลูกหลาน แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยน เร็ว รุนแรงและไร้ทิศทางทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ค่านิยมทางสังคม ความต้องการเฉพาะที่หลากหลาย และไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตที่ตั้งใจตั้งเป้าหมายไว้ ที่อยู่หลังเกษียณจึงมีให้เลือกมากเช่นกัน พอจะแบ่งเป็น 3 ทางเลือกหลักๆ ดังนี้

 

1) อยู่บ้านหลังเดิม

มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีหลายห้อง อาจเหมาะกับผู้เกษียณอายุที่ลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้า เป็นครอบครัวใหญ่ แต่หากลูกๆ แยกครอบครัวไปมีที่อยู่ของตนเอง ผู้เกษียณอายุอาจต้องพิจาณาเหตุปัจจัยและความจำเป็นอื่นๆ ประกอบการอยู่บ้านหลังเดิม ซึ่งมีข้อดี คือ ผู้เกษียณอายุไม่ต้องปรับตัวมาก และยิ่งมีลูกหลานแวะเวียนมาดูแลบ่อยๆ ก็มีพื้นที่ให้ลูกหลานได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่อาจมีภาระค่าใช้จ่ายดูแลบ้านทั้งภายในภายนอก ความปลอดภัยและความ เหมาะสมของประโยชน์ใช้สอยพื้นที่ในบ้าน เช่น บ้านสองชั้นที่ต้องขึ้นบันได ความกว้างของประตู ทางลาดและทางเดิน ห้องน้ำ ความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางไปสถานพยาบาลที่มีคุณภาพ อนึ่ง มีผู้เกษียณอายุจำนวนหนึ่งใช้วิธีแบ่งห้องให้ผู้ที่ไว้วางใจเช่าและดูแลกันแบบลูกหลานทำให้มีกิจกรรมและสังคม ไม่เหงา ขณะเดียวกันก็มีกระแสรายได้มาใช้จ่ายเพิ่มด้วย

 

2) ลดขนาดที่อยู่เดิมและหาที่อยู่ใหม่ที่สอดรับกับวิถีการใช้ชีวิต

ทางเลือกนี้อาจช่วยลดรายจ่ายประจำรายเดือนลงได้มาก โดยเฉพาะกรณีมีภาระผ่อนบ้านหลังเดิม ที่อยู่ที่เล็กลงของผู้เกษียณอายุที่มีแผนท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆหรือมีกิจกรรมที่ต้องเดินทางบ่อยครั้ง การเลือกคอนโดในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง ประหยัดทั้งเวลา ค่าเดินทาง ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน และช่วยให้มีเงินเหลือไปใช้ในส่วนที่จำเป็นอื่นหรือความต้องการเฉพาะอื่นๆได้อย่างสบายใจ เช่น กินข้าวนอกบ้าน สังสรรกับเพื่อนสนิท สะสมบุญด้วยการบริจาค ดูแลสุขภาพหรือแม้แต่เก็บไว้ให้ลูกหลาน

 

3) อยู่ในชุมชนหรือสถานดูแลผู้เกษียณอายุโดยเฉพาะ

ปัจจุบันมุมมองผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้ง เป็นผู้ที่พึ่งพาตนเองรักชีวิตอิสระ ประเทศไทยเริ่มมีธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาก มีบริการทั้งผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและผู้ที่ต้องการคนดูแลใกล้ชิด ในประเทศที่มีสวัสดิการสังคมที่ดี คนเริ่มมองหาที่อยู่หลังเกษียณนอกประเทศ (retiring overseas) ทั้งอยู่กันเป็นชุมชนใช้ภาษาเดียวกัน จัดสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่ตนคุ้นเคย และอยู่กระจายตัวกลมกลืนไปกับคนในท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีคุณภาพภายใต้เงินสวัสดิการที่ได้รับจากประเทศแม่ (home country) ซึ่งไทยเองก็ติดอันดับต้นๆ ประเทศปลายทางที่ต่างชาตินิยมใช้ชีวิตหลังเกษียณ เพราะค่าครองชีพไม่สูง อากาศดีทั้งปี มีบริการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานสูงแต่ราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับบริการในประเทศของตน

 

เป็นที่คาดการณ์ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า โลกจะมีประชากรที่อายุเกิน 65 ปีจะเพิ่มจาก 7% เป็น 14% หรือเป็น 1,300 ล้านคนและกลุ่มคนที่จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดคือ คนที่อายุ 80 ปี คำถามคือ เมื่อถึงช่วงเวลานั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยและกับตัวเรา และ ณ วันนี้ท่านที่มีอายุขึ้นเลขสี่ ท่านได้เตรียมตัวสำหรับ “เรือนเกษียณสุข” ไว้มากน้อยเพียงใด

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th