บทความ: ลงทุน
ธุรกิจสุขภาพ Mega Trend สำหรับการลงทุนระยะยาว
โดย คุณรัฐพล วชิรเมฆากุล นักวางแผนการเงิน CFP®
ธุรกิจสุขภาพยังคงความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว แม้ในสภาวะที่มีการระบาดของ COVID-19 ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มที่อาจเกิดวิกฤติหนี้ในอนาคต หากพูดถึงธุรกิจสุขภาพนักลงทุนไทยส่วนใหญ่คงนึกถึงแต่ธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งไม่แปลกเนื่องจากหุ้น Sector Health Care ของไทย (HELTH) มีแต่หุ้นโรงพยาบาล แต่ความเป็นจริง ยังมีอีกหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ บริษัทพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคน สัตว์เลี้ยง และปศุสัตว์ บริษัท Full Supply Chain ยางธรรมชาติ รวมถึงถุงมือยาง และกระจายอยู่ใน sector อื่นๆ ของ SET และตลาด MAI เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์โดยตรง ดังนั้นวันนี้ผมขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับธุรกิจสุขภาพในโลกใบนี้กัน
หากเราจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพ ขอแนะนำให้ไปดูดัชนี MSCI World Health Care Index อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 พบว่ามีมากถึง 10 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็น 14.57% ของ MSCI World Index โดยเรียงลำดับสัดส่วนดังนี้
Source: MSCI World Health Care Index (USD) Fact Sheet as of 31 March 2020
จะเห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มผลิตยา (Pharmaceuticals) อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Health Care Equipment) และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เป็น 3 กลุ่มธุรกิจที่ครองส่วนแบ่งรวมกันถึงประมาณ 77.4% ของกลุ่ม Health Care โดยมีหุ้น 10 บริษัทแรก เป็นพวกบริษัทวิจัยและผลิตยา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น JOHNSON & JOHNSON, ROCHE HOLDING GENUSS, PFIZER, NOVARTIS และ ABBOTT LABORATORIES เป็นต้น ส่วนกลุ่มโรงพยาบาล (Health Care Service) มีส่วนแบ่งเพียง 4.11% เท่านั้น เมื่อดูผลตอบแทนย้อนหลังพบว่า อัตราผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 11.38% ต่อปีเลยทีเดียว
Source: MSCI World Health Care Index (USD) Fact Sheet as of 31 March 2020
นอกจากนี้ การลงทุนในธุรกิจสุขภาพยังมีจุดเด่นอีกหลายข้อ เช่น สอดคล้องกับแนวโน้มที่ทั่วโลกเข้าสู่สังคมสูงอายุ (Aging Society) ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมากขึ้น เกิดกระแสการรักษาสุขภาพ เกิดพัฒนาการทางการแพทย์ใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาการของโรคภัยใหม่ๆ ในอนาคต ในเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจสุขภาพ คือ การลงทุนในธุรกิจสุขภาพ ไม่ว่าจะหุ้นสามัญ หรือกองทุนรวมสุขภาพ จัดเป็นการลงทุนที่มีการกระจุกตัว เกิด Concentration Risk ในอุตสาหกรรมเดียว และเนื่องจากเป็นการลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการเมือง เป็นต้น
สำหรับนักลงทุนที่มีการจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้แล้ว แต่ในปัจจุบันยังมีสัดส่วนเงินลงทุนในหุ้นน้อย และต้องการเพิ่มสัดส่วนหุ้นต่างประเทศในพอร์ตการลงทุนของตนเอง หุ้น และกองทุนรวมที่ลงทุนในธุรกิจสุขภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ