logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

กลยุทธ์การลงทุนแบบไหนที่เหมาะสำหรับนักลงทุน

โดย คุณรัฐพล วชิรเมฆากุล นักวางแผนการเงิน CFP®

 

กลยุทธ์การลงทุนแบบไหนเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีประสบการณ์ เป็นหนึ่งในข้อสงสัยสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลา ความรู้ ความชำนาญ ที่กำลังเริ่มต้นสะสมความมั่งคั่ง และพยายามค้นหาวิธีที่เหมาะสมในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยจะลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนระยะยาว หรือ ลงทุนระยะสั้นเพื่อจับจังหวะตลาดแบบซื้อๆ ขายๆ ให้พอได้กำไรในแต่ละครั้งที่มีการซื้อขาย แบบไหนเหมาะกว่ากัน

 

การลงทุนระยะยาวมีข้อดี คือ ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องตัดสินใจซื้อหรือขายบ่อยครั้ง ข้อเสีย คือ จำเป็นต้องทนเห็นกำไรลดลงไปหรือบางครั้งอาจถึงขั้นขาดทุนในช่วงตลาดขาลงให้ได้ ส่วนการลงทุนระยะสั้นเพื่อจับจังหวะตลาด หากทำถูกจังหวะนักลงทุนจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการซื้อขาย แต่ก็มีข้อเสีย คือ ต้นทุนจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสูงกว่า จากการซื้อขายบ่อยครั้ง ทำให้มีโอกาสอาจตัดสินใจซื้อขายผิดพลาด ข้อมูลเพียงเท่านี้คงไม่สามารถตอบได้ว่า เราควรเลือกกลยุทธ์ลงทุนระยะยาว หรือควรลงทุนระยะสั้นเน้นจับจังหวะตลาด เพื่อให้เห็นข้อมูลในอดีต ขอพาท่านผู้อ่านไปดูข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในประเทศสหรัฐอเมริกากัน

 

Source: J.P. Morgan, Market Insights, Guide to Markets, Q2 2020, as of 31 March 2020, Page 95

 

จากข้อมูลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 – 31 มีนาคม ค.ศ. 2020 การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ตามดัชนี S&P 500 (กราฟแท่งสีเทา) พบว่าหากลงทุนระยะสั้นเพียง 1 ปี (1-yr rolling หมายถึง เริ่มต้นลงทุนต้นปี สิ้นสุดการลงทุนสิ้นปี) ช่วงผลตอบแทนที่ได้อยู่ระหว่าง -43% ต่อปีถึง +61% ต่อปี จะเห็นว่าช่วงของผลตอบแทนสูงมาก ถ้าหากสามารถยืดระยะเวลาลงทุนออกไปเป็น 10 ปี (10-yr rolling) ช่วงผลตอบแทนที่ได้อยู่ระหว่าง -3% ต่อปีถึง +21% ต่อปี และถ้าสามารถเพิ่มระยะเวลาลงทุนเป็น 20 ปี (20-yr rolling) ช่วงผลตอบแทนที่ได้อยู่ระหว่าง +4% ต่อปีถึง +18% ต่อปี จะเห็นได้ว่าจากสถิติที่ผ่านมา หากสามารถลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โอกาสขาดทุนจะน้อยมากๆ และถึงแม้ขาดทุนตัวเลขการขาดทุนก็ไม่มากเมื่อเทียบกับการลงทุนในระยะสั้น

 

แต่ถ้ามั่นใจว่าเรามีข้อมูล และความรู้ความสามารถในการจับจังหวะลงทุนได้ จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนระยะยาวหรือไม่ โดยหวังว่า เพียงทำให้จำนวนครั้งที่จับจังหวะถูกต้องและได้กำไรมากกว่าจำนวนครั้งที่จับจังหวะผิดแล้วขาดทุน ก็จะสามารถทำกำไรได้แล้ว ไม่ต้องมาทนลงทุนยาวๆ เรามาดูสถิติของ S&P 500 กันอีกครั้ง

 

Source: J.P. Morgan, Retirement Insights, Guide to Retirement, 2020 edition, Page 43

 

ระหว่างวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2000 – 31 ธันวาคม ค.ศ. 2019 หากเราทำการลงทุนต่อเนื่อง (Fully Invested) ในดัชนี S&P 500 ผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 6.06% ต่อปี เทียบกับการลงทุนระยะสั้นจับจังหวะซื้อขาย หากเราจับจังหวะในการเข้าลงทุนพลาดวันที่ดีที่สุดของตลาดไปเพียง 10 วันตลอดระยะเวลาลงทุน 20 ปี ผลตอบแทนจะลดลงจาก 6.06% ต่อปี เหลือเพียง 2.44% ต่อปี อาจพูดได้ว่าผลตอบแทนจะหายไปถึง 3.62% ต่อปี ซึ่งไม่น้อยเลย หากเราเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาท ตลอดระยะเวลา 20 ปีตามข้อมูลในกราฟ ด้วยผลตอบแทน 6.06% ต่อปี มูลค่าเงินลงทุน ณ สิ้นปี 2019 คิดเป็นเงิน 32,421 บาท ส่วนกรณีลงทุนแบบจังหวะซื้อขาย และพลาดวันที่ดีที่สุด 10 มูลค่าเงินลงทุน ณ สิ้นปี 2019 คิดเป็นเงินเพียง 16,180 บาท จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนเมื่อเทียบเป็นตัวเงินต่างกันประมาณ 16,241 บาท หรือต่างกันเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

 

จากประสบการณ์ในการให้คำแนะนำลูกค้าที่เป็นผู้บริหาร เจ้าของกิจการ พนักงานบริษัท หรืออาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ พยาบาล และอื่นๆ เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สม่ำเสมอ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน ไม่มีประสบการณ์ลงทุน ไม่มีเวลาในการดูแลพอร์ตการลงทุน คำแนะนำในฐานะนักวางแผนการเงินในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดพอร์ตลงทุน คือ ให้เลือกกลยุทธ์ตามเป้าหมายการเงิน หากเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเป้าหมายเกี่ยวกับการเก็บเงินเกษียณอายุ เบี้ยประกันสุขภาพหลังเกษียณ ทุนการศึกษาบุตรในระดับปริญญาตรี ฯลฯ พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายดังกล่าว คือ พอร์ตลงทุนระยะยาวที่มีระยะเวลาลงทุนตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งน่าจะคล้ายกับเป้าหมายของท่านผู้อ่านหลายๆ ท่าน

 

อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่มั่นใจว่าเป้าหมายการเงินของท่านควรจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไร ลองปรึกษานักวางแผนการเงิน เพื่อทำหน้าที่เพื่อนคู่คิด ช่วยวางแผนการเงิน เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุน เพราะแผนการเงินมีอะไรให้คิดมากกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนครับ

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th