logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

บริหารเงินลงทุนอย่างไร หากบริษัทปิดตัว ในช่วง โควิด-19!!!

โดย คุณอรพรรณ บัวประชุม นักวางแผนการเงิน CFP®

 

ตั้งแต่โรคโควิด-19 จากเชื้อโคโรนาไวรัส เกิดขึ้นมาเมื่อปลายปี 2019 เป็นที่กล่าวขานกันมาตลอด เนื่องจากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลก ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนเมืองที่มีผู้คนคับคั่งให้กลายเป็นเมืองร้าง เปลี่ยนการจราจรที่เป็นอัมพาตให้กลายเป็นถนนว่างเปล่า เปลี่ยนตลาดหุ้นจากหลักพันให้เหลือหลักร้อย และการกักตุนอาหารทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสารปลากระป๋อง น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แม้กระทั่งไข่และขนมปังที่ไม่ใช่ของแห้ง เหตุการณ์แบบนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้บ่อย ดังนั้นด้วยภาวะไม่ปกติแบบนี้ พวกเราต้องคุม “สติ” ให้ดี นอกจากสติแล้ว ในภาวะแบบนี้ หากบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดตัวลง เราจะบริหารเงินอย่างไร

 

พี่จิตสาวใหญ่ใจห้าวผ่านร้อนผ่านหนาวมา 45 ปี ก็หนีไม่พ้นโดนพิษโควิด-19 เข้าไปเต็ม ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว ยังดีที่บริษัทที่ทำงานจ่ายเงินชดเชยมาให้ก้อนหนึ่ง ประกอบกับพี่จิตส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตั้งแต่เริ่มทำงานรวมเบ็ดเสร็จได้เงินมาร่วม 2,500,000 บาท สิ่งที่ต้องจัดการกับเงินก้อนนี้ คือ บริหารจัดการให้มีเงินพอใช้ในระหว่างที่เร่งหางานใหม่ และจะบริหารเงินก้อนนี้อย่างไร ให้พอมีดอกผลมาช่วยเสริมรายได้ สำหรับใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น โชคดีที่ผ่านมาพี่จิตไม่เคยก่อหนี้จึงไม่มีเรื่องหนี้สินให้กังวล ในฐานะนักวางแผนการเงินขอแนะนำการบริหารจัดการเงิน ดังนี้

 

เรื่องสำคัญและจำเป็นที่ต้องคิดถึงแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ

  • ส่วนที่ 1: สำหรับใช้จ่ายในเรื่องกินอยู่ ช่วงนี้ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด แนะนำให้แบ่งเงินจำนวน 300,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายประมาณ 6 เดือน โดยแบ่งเป็นเงินสด 50,000 บาท ส่วนที่เหลือนำไปฝากออมทรัพย์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนบ้าง
  • ส่วนที่ 2: สำหรับลงทุน ในส่วนนี้ต้องกันเงินไว้ก้อนใหญ่หน่อย เพื่อให้เงินมีโอกาสเติบโตขึ้นมาบ้าง ให้จัดสรรเงินจำนวน 2 ล้านบาทไปลงทุน แต่หากกลัวจะขาดทุน แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรแบงค์ชาติ และตั๋วเงินคลัง 500,000-1,000,000 บาท สลากออมสิน 500,000 บาท ส่วนที่เหลือนำไปฝากออมทรัพย์แบบ E-Saving และลงทุนในทองคำ เพื่อรอดูสถานการณ์การลงทุน เงินลงทุนในส่วนนี้เป็นเงินเย็นที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว จึงสามารถรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยคาดหวังผลตอบแทนประมาณ 1-3% ต่อปี
  • ส่วนที่ 3: สำหรับค่าใช้จ่ายในสิ่งที่คาดไม่ถึง เช่น ประกันโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ที่ทำงานมีสวัสดิการรักษาพยาบาลให้ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง และสิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม คือประกันสุขภาพแม้ว่าในปัจจุบันจะมีสุขภาพแข็งแรงก็ตาม

จากการที่บริษัทปิดกิจการพี่จิตยังสามารถใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลจากประกันสังคมได้อีก 6 เดือนและใช้สิทธิว่างงานในส่วนของเงินชดเชยการขาดรายได้เดือนละ 10,500 บาท ระยะเวลา ไม่เกิน 200 วัน* เงินส่วนนี้อาจดูไม่มากนักแต่ก็พอช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายของพี่จิตได้บ้าง

 

แนะนำให้พี่จิตหารายได้เพิ่มเติมให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะมีเงินเก็บบ้างก็ตาม งานใหม่ในช่วงนี้ก็หายาก แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ในช่วงนี้สามารถใช้ฝีมือเย็บปักถักร้อยที่ชอบมานานแต่ไม่มีเวลา จัดการปัดฝุ่นจักรเย็บผ้าตัวเก่ง แล้วเริ่มเย็บหน้ากากผ้า เพื่อใช้เอง แจกจ่ายญาติพี่น้อง และเป็นรายได้เสริมได้อีกทาง

 

นอกจากนี้ ในช่วงพักจากการเย็บหน้ากาก พี่จิตมีเวลาจัดบ้านให้เข้าที่เข้าทาง เจออะไรที่ยังใหม่ไม่ได้ใช้ ก็เลือกเอาไว้ ดีที่พี่จิตชอบสะสมของแปลก ๆ เก๋ ๆ จึงคิดหาช่องทางขายของออนไลน์เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และยังเป็นการป้องกันตัวเอง ไม่ต้องออกจากบ้านไปพบผู้คน

 

สำหรับแผนการลงทุนของพี่จิต แม้ว่าจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูงก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เอื้อให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ พี่จิตตั้งใจว่าหากสามารถเก็บออมเงินได้มากขึ้น เงินส่วนที่เก็บออมได้จะทยอยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไทย เนื่องจากหุ้นไทยปรับตัวลงมาเยอะ และจากสถานการณ์ในครั้งนี้ พี่จิตยังมองว่าประเทศไทยจะฝ่าวิกฤติไปได้ ในส่วนของการลงทุนในหุ้นรายตัวนั้น พี่จิตคิดว่าต้องหาเวลาศึกษาหุ้นทีละบริษัท ซึ่งใช้เวลานานเกินไป ให้คนที่คุ้นเคยลงทุนให้น่าจะดีกว่า สำหรับเงินลงทุนในส่วนนี้พี่จิตคิดเสมอว่าถ้าขาดทุนจะถือรอเพราะมองว่าในอนาคตน่าจะเติบโตขึ้นได้ และจะไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจในการซื้อขาย

 

การตกงานครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งก่อน ที่ยังพอเปิดท้ายขายของ เอาของที่บ้านมาวางขายได้ หรือ เอาเสื้อผ้าที่เคยใส่มาขายมือ 2 ได้ พี่จิตพยายามสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง และให้กำลังใจเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันและประสบปัญหาตกงานด้วยกัน ในตอนนี้สำคัญที่สุดคือมีเงินออมให้เพียงพอ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น พยายามหารายได้ ฝ่าฟัน แล้วเราจะผ่านพ้นไปด้วยกัน

 

*คณะกรรมการประกันสังคม มีมติเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้ ณ วันที่ 20 มีนาคม 2563 กรณีผู้ประกันตนถูกเลิกจ้าง รับเงินกรณีว่างงาน 70% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน (บังคับใช้ 2 ปี)

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th