logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: บริหารจัดการเงิน

มาทำความรู้จักกับ “ความมั่งคั่ง” กันเถอะ

โดย คุณกมล กระจ่างวงศ์ชัย นักวางแผนการเงิน CFP®

 

ความมั่งคั่ง (Wealth) คืออะไร? ใครมั่งคั่งกันบ้าง?*

ความมั่งคั่ง หมายถึง มูลค่าของสินทรัพย์สุทธิหรือความมั่งคั่งสุทธิ (Net Worth) ของบุคคล (สินทรัพย์รวม-หนี้สินรวม) ความมั่งคั่งส่วนใหญ่มาจากการออม การลงทุน มรดก หรือรับจากการให้ ส่วนน้อยได้จากความโชคดี เช่น การถูกรางวัล ความมั่งคั่งส่วนใหญ่จะไม่ถูกนำออกไปใช้จ่ายดำรงชีพ ยกเว้นเมื่อรายได้ประจำหยุดไปแล้ว

 

ความมั่งคั่งเป็นตัววัดฐานะการเงินเพื่อเปรียบเทียบและจัดลำดับที่นิยมใช้กันเป็นอันดับต้นๆ

 

*Forbes ใช้ Net Worth เรียงลำดับเศรษฐีของประเทศไทย https://www.forbes.com/thailand-billionaires/list/

 

มีอะไรอยู่ในความมั่งคั่งบ้าง? มีอะไรมากถึงดี

ความมั่งคั่งประกอบด้วยสินทรัพย์ 3 กลุ่ม

  1. สินทรัพย์สภาพคล่อง (Liquid Assets) ได้แก่ เงินสด เงินฝากระยะสั้น กองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อสำรองใช้จ่ายวันต่อวันและสำรองเผื่อฉุกเฉิน (3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน) หากเก็บไว้มากเกินไปจะเสียโอกาสในการนำเงินไปลงทุนในความมั่งคั่งกลุ่มที่ 2
  2. สินทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Assets) เพื่อสร้างรายได้และ/หรือสร้างมูลค่าเพิ่ม (Capital Gain) เช่น เงินฝากระยะยาว พอร์ตการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ (เช่น พอร์ตลงทุนเพื่อเป้าหมายการเกษียณ) อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ประกันชีวิต (มูลค่าเงินสด) สิทธิสัมปทาน ฯลฯ ความมั่งคั่งจะเติบโตได้ดีถ้าท่านมีสัดส่วนของสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมาก กฎทั่วไปคือ ≥50% ของความมั่งคั่งทั้งหมด
  3. สินทรัพย์ส่วนตัว (Personal Assets) เช่น ที่อยู่อาศัย รถยนต์ ของใช้อื่นๆ หากซื้อหาหรือมีค่าใช้จ่ายกับสินทรัพย์ประเภทนี้เกินความจำเป็นจะเสียโอกาสลงทุนเช่นกัน แต่ถ้าท่านคัดกรองก่อนซื้อด้วยการประมาณราคาและโอกาสขายต่อ (Resale Price) ในอนาคต (แม้ไม่คิดจะขายก็ตาม) ท่านอาจมี Capital Gain เพิ่มความมั่งคั่ง เช่น บ้านพักอาศัย ของสะสม เครื่องประดับ ฯลฯ ในทางตรงข้ามท่านควรเลี่ยงสินทรัพย์ราคาสูงด้อยค่าเร็วหรือซื้อแล้วมีค่าใช้จ่ายแฝงสูงตามมา เช่น รถยนต์

ทำไมการสร้างความมั่งคั่งจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน 

  1. ความมั่งคั่งสามารถแปลงเป็นปัจจัยที่สนองความต้องการทุกระดับของมนุษย์ ( Hierarchy of Needs) (แต่ไม่ใช่ทุกความต้องการของมนุษย์) เริ่มจาก 1. ความต้องการพื้นฐาน (ปัจจัยสี่) 2. ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย 3. ความต้องการความรักความเป็นเจ้าของ 4. ความต้องการชื่อเสียงความภูมิใจ และ 5. ความต้องการความสมบูรณ์แบบของชีวิต
  2. ปัจจัยอื่นที่เร่งความสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง
    1. ปัจจัยทางสังคม ได้แก่ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรอายุยืนยาวขี้น คนโสดและครอบครัวเดี่ยวเพิ่มขี้น อัตราการเกิดลดลง (บุตรน้อยลงหรือไม่มีเลย) ผู้สูงอายุจึงต้องพึ่งตนเองมากขี้น ต้องการความมั่งคั่งมากขี้น
    2. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความผันผวนของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ เงินฝืด และการ disrupt ของเทคโนโลยี เช่น AI Robotic เกิดความไม่แน่นอนต่อผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจ (รัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ)
    3. ปัจจัยเชิงบวก เช่น อยากมั่งคั่งเร็ว เพื่อเกษียณเร็วไปสู่ lifestyle หรืองานที่ชอบ (ไม่เน้นรายได้) เพื่อใช้เวลากับครอบครัวหรืออื่นๆ มั่งคั่งเพื่อเตรียมใช้จ่ายกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพหลังเกษียณ อนึ่งความมั่งคั่งมีส่วนอย่างมากในสังคมแห่งการแบ่งปัน (ให้ บริจาค ทำบุญ) เช่น การบริจาคของ Bill Gates และ Warren Buffett ที่สร้างกระแสผู้มั่งคั่งแบ่งปันความมั่งคั่งด้วยเงินจำนวนสูงระดับโลก

จะมั่งคั่งต้องทำอย่างไร

ควรบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ผ่านการวางแผนทางการเงิน แบ่งเป็นหลายแผนครอบคลุมทุกความต้องการทางการเงิน ทุกแผนประกอบด้วยการกำหนดเป้าหมายและแผนปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนเป้าหมายทั้งหมดให้เป็นจริง เรียกได้ว่า “ทุกอย่างครบจบที่เดียว”

 

การบริหารความมั่งคั่งผ่านการวางแผนทางการเงินช่วยให้มั่งคั่งได้อย่างไร

ตามลำดับ เลข 1-7 ในภาพประกอบ* กรณีตัวอย่างท่านมีรายได้จาก 2 แหล่ง ได้แก่ 1. รายได้จากสินทรัพย์ (เช่น จากพอร์ตลงทุน ดอกเบี้ยรับ ค่าเช่า) 2. รายได้จากการทำงาน (เงินเดือนหรือกิจการส่วนตัว)

 

 

  1. การสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Creation)
    • การวางแผนอุปโภคบริโภค จะช่วยสร้างความมั่งคั่ง โดยควบคุมการใช้จ่ายและจัดสรรเงินให้แผนการเงินทุกแผนรวมถึงแผนบริหารหนี้ ใช้บัญชีรับจ่ายงบดุลและงบประมาณเป็นตัวช่วย บริหารเงินสดเงินสำรองฉุกเฉินให้มีสภาพคล่อง เปรียบเสมือนฝ่ายบัญชีและการเงินของบริษัท
  2. การปกป้องความมั่งคั่ง (Wealth Protection)
    • การวางแผนประกัน ช่วยชดเชยไม่ให้ความมั่งคั่งลดลงจากการขาดรายได้หรือการใช้จ่ายจากเหตุไม่คาดฝันต่อ ชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และทรัพย์สิน ของท่านและครอบครัว
    • การวางแผนการเกษียณ ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะไม่มีเงินใช้ดำรงชีพยามเกษียณ
  3. การสะสมความมั่งคั่ง (Wealth Accumulation) เปรียบเสมือนฝ่ายลงทุนรับเงินจากทุกแผนมาลงทุนเพื่อทำให้ถึงเป้าหมาย
    • การวางแผนการลงทุน ช่วยเร่งความมั่งคั่งให้เพิ่มขี้น จากอัตราผลตอบแทนและกระแสเงินสดรับจากการลงทุน ซึ่งมีส่วนทำให้แผนการเงินในด้านต่างๆ มีโอกาสสำเร็จได้เร็วขึ้น ลูกค้ารายใหญ่ของแผนการลงทุนคือ แผนการเกษียณ เนื่องจากมีความสำคัญมาก ก้อนเงินสูงและใช้เวลานาน
    • การวางแผนภาษี ช่วยเพิ่มความมั่งคั่งจากการลดภาระภาษีที่จะต้องชำระตามกฎหมาย ซึ่งทำให้มีเงินออมมาลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อมาต่อยอดความมั่งคั่ง
  4. การส่งมอบความมั่งคั่ง (Wealth Distribution)
    • การวางแผนมรดก เพื่อให้ทายาทได้รับการแบ่งมรดกตามวัตถุประสงค์สืบทอดและบริหารความมั่งคั่งต่อไป

มีเงินเท่าไรถึงจะเรียกว่า มั่งคั่งดี มั่งคั่งแล้ว ผู้เขียนขอตอบเป็น 2 แนวทางดังนี้

  1. คำตอบเป็นอัตราส่วน วัดจาก “อิสรภาพทางการเงิน” หมายถึงท่านมีเงินใช้ดำรงชีพตามมาตรฐานชีวิตที่ดีและยอมรับได้ตาม Lifestyle โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการทำงานจนตลอดอายุขัย คำนวณจากสมการ
    อัตราส่วนความมั่งคั่ง (Wealth Ratio)* = รายได้จากสินทรัพย์ / รายจ่าย
    Wealth Ratio ≥ 1 (1=มีอิสรภาพทางการเงิน)
    *ที่มา หนังสือจัดทัพลงทุน ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
  2. คำตอบเป็นตัวเงิน (ได้จากการจัดทำแผนการเกษียณ)
    จำนวนเงิน ความมั่งคั่งที่ดี = จำนวนเงินที่พอใช้จนถึงอายุขัย***
    คำนวณโดยจัดทำแผนการเกษียณใช้ข้อมูลและสมมติฐานเฉพาะตัวของท่าน คำตอบไม่เหมือนกันทุกคน เพราะอายุ รายได้ รายจ่าย ระยะเวลา เหตุจำเป็นใช้เงินและสมมติฐานที่ใช้ประมาณการไม่เหมือนกัน
    *** ท่านอาจคำนวณจำนวนเงินฯ เบื้องต้นจาก web ของสถาบันการเงินฯ หรือ ปรึกษารายละเอียดกับนักวางแผนการเงิน CFP

 

สรุป “Wealth is a journey not a destination” หากท่านบริหารความมั่งคั่งผ่านการวางแผนทางการเงินโดยมีชุดความคิด หรือ กรอบคิด (Mindset) ที่ถูกต้องและยึดติดกับความฉลาดรู้การเงิน (Financial Literacy) ท่านน่าจะมีความมั่นใจและมีความรู้สึกเหมือนพบความมั่งคั่งอยู่แล้วตลอดเวลาที่ท่านกำลังเดินทางค้นหาความมั่งคั่งครับ

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th