logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

ทิศทางการลงทุนในไตรมาสที่ 1/2020

โดย คุณภาดร สุขสวัสดิ์ นักวางแผนการเงิน CFP®

 

ปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีที่การลงทุนมีความผันผวนอย่างมาก ตลาดลงทุนถูกปกคลุมไปด้วยความกลัวของนักลงทุน จากเหตุการณ์ที่จะมากระทบกับการลงทุน ทั้งสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) และรวมไปถึงเหตุการณ์ประท้วงบนเกาะฮ่องกงในช่วงปลายปี ปี 2019 ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนทั้งปีเป็นบวกเพียง 1% แต่น่าประหลาดใจที่ ภาพตลาดการลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่างดัชนีดาวโจนส์ สิ้นปีกลับปิดบวกไปถึง 23% เมื่อเทียบกับต้นปี เพราะในอีกด้านหนึ่งตัวเลขการบริโภคในประเทศของจีนก็ปรับเพิ่มขึ้น และทางฝั่งอเมริกาเองนั้น ก็ยังเป็นตลาดขาขึ้นอยู่จากตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับผลกำไรที่สูงของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีในตลาด เห็นได้ว่าถึงแม้นักลงทุนจะมีความกังวลแต่ตลาดการลงทุนก็ยังสร้างโอกาสในการลงทุนให้ได้อยู่ หากเพียงแต่เราสามารถที่จะมองทิศทางการลงทุนให้ออก

 

แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2020 นี้ความผันผวนในตลาดลงทุนยังคงมีอยู่ สาเหตุจากเหตุการณ์ที่สร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุนก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไปไหน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่จบ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ในต้นปีนี้ ทั้งประเด็นความขัดแย้งจากการลอบสังหารนายพลของอิหร่าน และรวมไปถึงการแพร่ของเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ประกอบกับการเกิด inverted yield curve ซึ่งเป็นสัญญาณก่อนเกิดภาวะถดถอยในอดีต ทั้งหมดนี้ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ และคาดการณ์ว่าตลาดอาจจะเกิดสภาวะถดถอยเหมือนในอดีตได้

 

แต่หากนำตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆ ตัว ณ ปัจจุบัน มาเทียบกับปี 2000 และ ปี 2007 ที่เกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว ก็พบว่าไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤติเหมือนใน 2 ช่วงเวลานั้น เพราะถึงแม้ว่าตัวบ่งชี้วัดเศรษฐกิจอย่างเช่น Composite PMI หรือตัวเลขอัตราการเติบโตของกำไรจากทางฝั่งภาคเอกชนจะลดลง แต่ก็ลดลงจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ซึ่งหากสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อไร ภาวะการกลัวการถดถอยก็จะค่อยๆ ถูกลดทอนลงไป

 

ดังนั้น ในมุมมองการลงทุน ปี 2020 จึงจะยังเป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นมีความน่าสนใจอยู่ ด้วยเหตุผลทางจิตวิทยา 2 ประการ คือ FOMO (Fear of Missing out) ความกลัวที่จะพลาดโอกาสการลงทุน เพราะตลาดหุ้นในบางตลาดก็ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ในปีนี้ เช่น ตลาดหุ้นอเมริกา และ TINA (There is no Alternative) การที่ไม่มีทางเลือกในการลงทุนประเภทอื่นที่ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับการลงทุนในหุ้น การเอาเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นไปลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ในช่วงดอกเบี้ยขาลง ได้ผลตอบแทนคาดหวังที่ต่ำเกินไป ทำให้นักลงทุนจะยังคงเลือกลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ในปีนี้ แต่เนื่องด้วยความเสี่ยงในตลาดการลงทุนก็ยังมีความผันผวนอยู่มาก เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องมีการคิดกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม ดังนี้ครับ

  1. แบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่หนึ่งเลือกลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโต (Growth stocks) เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ และส่วนที่สองเลือกไปลงทุนในส่วนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ (Income Assets) ซึ่งได้แก่ การลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นปันผล และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับพอร์ตการลงทุนในกรณีที่หุ้นเติบโตมีความผันผวนในระยะสั้น
  2. กระจายการลงทุนไปในการลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากทิศทางการลงทุนในไทย มีความผันผวนจากปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินไปในปัจจุบัน ที่อาจส่งผลให้เงินมีทิศทางไหลออกจากตลาดหุ้นไทยหากเงินบาทอ่อนค่าฉับพลัน
  3. แบ่งการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำจำพวกตราสารหนี้ไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในภาวะที่ให้ผลตอบแทนต่ำ จึงมีโอกาสทำให้นักลงทุนมองทางเลือกอื่นในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าและมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากเดิม (Risk Appetite)
  4. เก็บเงินสดไว้กับตัวบ้าง เพื่อที่หากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ก็จะสามารถนำเงินในส่วนนี้ที่เป็นเหมือนสภาพคล่องในการนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือนำมาเป็นทุนสำรองในการลงทุนเพิ่มหากเห็นโอกาสในการลงทุนในอนาคต

 

กลยุทธ์การลงทุนเป็นเพียงแนวทางในการลงทุนที่จะนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมและความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนแต่ละคน ผลตอบแทนคาดหวังที่สูงขึ้นก็มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงขึ้นตามมาด้วย การกระจายการลงทุนเป็นทางเลือกการลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนลง แต่อาจไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนคาดหวังสูงขึ้น ลองหาจุดสมดุลให้กับตนเองและเลือกลงทุนตามความชอบและความถนัด รวมถึงมีความระมัดระวังให้มากขึ้นในปี 2020 ซึ่งเป็นอีกปีหนึ่งที่ตลาดยังมีความผันผวนสูงอยู่ครับ

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th