logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: ลงทุน

กองทุนรวมช่วยนักลงทุนได้อย่างไร

โดย คุณธนพงษ์ เอื้อสมิทธ์ นักวางแผนการเงิน CFP®

 

ในปัจจุบันนี้ ช่องทางการลงทุนต่างๆ ได้เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงรูปแบบการลงทุนได้หลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ปัญหาของนักลงทุนส่วนใหญ่คือมักไม่มีเวลาในการศึกษาและติดตามข้อมูลการลงทุนอย่างใกล้ชิด และเนื่องด้วยมีเงินลงทุนจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้มากพอ ดังนั้นการลงทุนผ่านกองทุนรวม จึงเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้มีประสิทธิภาพ และมีการจัดการลงทุนอย่างเป็นระบบมากขึ้น

 

โดย “กองทุนรวม” นั้นเป็นเครื่องมือในการลงทุน (Investment Vehicle) ชนิดหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินลงทุนจากนักลงทุนจำนวนมาก และนำไปจดทะเบียนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล (กองทุน) โดยผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทต่างๆ ตามนโยบายการลงทุนที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนการลงทุน ซึ่งนักลงทุนจะได้รับ “หน่วยลงทุน” ตามสัดส่วนที่ได้ลงทุนไว้ และผลการดำเนินงานของกองทุนจะสะท้อนไปที่มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของหน่วยลงทุน (Net Asset Value : NAV)  ซึ่งจะทำการคำนวณตามราคาตลาด (Mark to Market) ในแต่ละวัน

 

 ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวม   มีดังนี้

 

  1. มีกลไกที่ปกป้องคุ้มครองผู้ถือหน่วยลงทุน
    โดยมีสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นหน่วยงานรัฐที่คอยควบคุมและกำกับดูแล บลจ. ให้การลงทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนรวม รวมถึงจัดให้มีผู้ดูแลผลประโยชน์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนผู้ถือหน่วยลงทุน ทำให้นักลงทุนได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ได้จากหนังสือชี้ชวนการลงทุนของกองทุนรวมนั้นๆ 

 

  1. สามารถใช้เงินลงทุนไม่มาก  
    ในขณะที่การลงทุนอื่นๆ จำเป็นต้องมีเงินลงทุนพอสมควรในการเริ่มลงทุน เช่น การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่การลงทุนในกองทุนรวมนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากโดยสามารถลงทุนในหลักร้อยหรือหลักพันบาท จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ในการลงทุน  

 

  1. กองทุนรวมบริหารโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ
    การลงทุนต่างๆ จำเป็นต้องใช้เวลาศึกษาและติดตามข้อมูลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกองทุนรวมนั้นจะมีทีมงานผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ความสามารถ คอยดูแลและบริหารกองทุนให้เป็นไปตามนโยบายของกองทุน ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถวางใจได้ว่ามีมืออาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด   

 

  1. กองทุนรวมมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี
    ในแง่ของกองทุนรวมทั่วๆ ไปนั้น ผลกำไรจากการขายกองทุนได้รับการยกเว้นภาษีส่วนต่างกำไร ทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย (แต่หากกองทุนนั้นๆ มีเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไร จะเสียภาษีในอัตรา 10% ซึ่งนักลงทุนสามารถแยกหักภาษีโดยไม่รวมคำนวณกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้) และในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ก็มีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้สุทธิ แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท (โดยนักลงทุนจะต้องถือครอง LTF อย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน จึงจะขายได้โดยไม่ต้องเสียภาษี) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้สุทธิ แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./ประกันชีวิตแบบบำนาญ (โดยนักลงทุนต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี จนถึงอายุ 55 ปี จึงจะขายได้โดยไม่ต้องเสียภาษี) ถึงแม้ว่า LTF จะไม่มีการต่ออายุในสิ้นปี 2562 แล้ว แต่ก็ยังมีกองทุน RMF ที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ต่อเนื่อง

 

  1. กองทุนรวมมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
    เนื่องจากจุดประสงค์ในการลงทุน และการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ทำให้การลงทุนในแต่ละสินทรัพย์นั้นจะมีความเสี่ยงเฉพาะตัว แต่สำหรับกองทุนรวมนั้นมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองได้ เช่น หากต้องการที่จะพักเงินในระยะสั้น รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก ก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money market fund) หรือหากต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากประจำ รับความเสี่ยงได้ปานกลางก็อาจจะลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ และสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว การจัดสรรเงินลงทุน (Asset allocation) ด้วยกองทุนรวมผสม หรือกองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมต่างประเทศ  ทำให้ความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตลงทุนนั้นลดลงและผลตอบแทนที่ได้รับมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

จะเห็นว่ากองทุนรวมนั้น มีข้อดีมากมายสำหรับนักลงทุน แต่นักลงทุนเองก็ควรจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของกองทุนรวมที่ตนเองจะเข้าไปลงทุน รวมถึงลงทุนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของตนเอง เพราะหากเลือกนโยบายการลงทุนที่ไม่เหมาะสมกับตนเอง ก็อาจจะทำให้การลงทุนไม่บรรลุวัตถุประสงค์ได้

 

 

 

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th