บทความ: เกษียณ
วันนี้ คุณพร้อมจะเกษียณอายุ หรือยัง ?
โดย คุณดุษณี เกลียวปฏินนท์ นักวางแผนการเงิน CFP®
หลายคนอาจเหนื่อย หรือ เบื่องานที่กำลังทำอยู่ และคิดที่จะ early retirement หรือเกษียณก่อนกำหนด หรือ อยู่ในช่วงอายุที่ต้องวางแผนเพื่อเตรียมตัวเกษียณในอนาคต
ก่อนตัดสินใจ เราลองมาตรวจเช็คความพร้อมกันก่อนว่ามีปัจจัยใดบ้างที่เราต้องพิจารณากัน
- ด้านการเงินและสภาพคล่อง แม้ว่าเราจะพูดกันว่า เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่จริงๆ แล้วตั้งแต่ลืมตา เราก็ต้องใช้เงินในการดำรงชีพเสมอ ดังนั้นเราจึงต้องสำรวจแหล่งเงินเก็บที่มีอยู่ รวมถึงรายรับที่ยังคงได้รับหลังจากไม่ทำงานประจำ เทียบกับประมาณการรายจ่ายหลังเกษียณ ว่ามีพอใช้จ่ายหรือไม่ ทั้งนี้ รายรับหลังเกษียณ รวมถึง
- เงินบำนาญ หรือ บำเหน็จจากเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กรณีรับราชการ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีพนักงานบริษัท ซึ่งโดยปกติจะคำนวณตามเงินเดือนเฉลี่ยปีสุดท้าย และจำนวนปีที่ทำงาน รวมถึงเงินสงเคราะห์ครู และเงินจากกองทุนการออมแห่งชาติ
- เงินบำนาญหรือบำเหน็จจากประกันสังคม หากมีการจ่ายเบี้ยประกันสังคมระหว่างทำงาน
- เงินผลประโยชน์จากประกันบำนาญ หรือประกันชีวิตที่จ่ายคืนเมื่อครบกำหนดเวลา
- เงินจากนายจ้างตามกฎหมายแรงงาน และเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ค่าขายคืนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งสามารถขายคืนได้เมื่อครบอายุ 55 ปี เป็นต้นไป
- รายได้อื่นๆ เช่น ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือ รายได้จากเงินลงทุนประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ ให้แยกประเภทเป็น เงินได้ครั้งเดียว เงินได้ประจำ และ จำแนกความถี่ที่รับ เป็นรายเดือน ไตรมาส หรือรายปีเปรียบเทียบกับรายจ่ายที่คาดไว้
ข้อควรระวัง
- ในขณะที่รายรับอาจได้ไม่สม่ำเสมอเหมือนเดิม แต่รายจ่ายนั้นมีคงที่ทุกเดือน ทำให้ในการประมาณงบกระแสเงินสด (รายรับ และรายจ่ายจริงที่เป็นเงินสด) ในด้านรายรับ ต้องประมาณการเผื่อในแง่ร้าย เช่น หากเป็นรายรับจากค่าเช่า ต้องลองประมาณการกรณีไม่มีคนเช่า หรือหากลงทุน หรือฝากเงิน อาจไม่ได้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยตามคาด
- กรณีรายจ่ายเราต้องประมาณการสำรองเผื่อไว้ล่วงหน้า กรณีที่เราอาจมีช่วงชีวิตที่ยืนยาวมากกว่าที่เราคาดไว้ (ให้บวกอายุเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 ปี เช่น อายุเฉลี่ยของคนในครอบครัว เช่น คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย โดยเฉลี่ยมีอายุ 80 ปี ก็ให้ประมาณอายุไว้อย่างน้อย 85 ปี)
- ค่าใช้จ่ายในช่วงเกษียณปีแรก ให้ท่านประมาณรายจ่ายจำนวนเท่าเดิม หรือมากกว่าช่วงก่อนเกษียณสัก 10-20% เพราะเป็นระยะที่มีเวลาว่างจากการทำงาน และมีโอกาสท่องเที่ยวและมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงมากขึ้นทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ปีถัดไปจึงค่อยลดประมาณการค่าใช้จ่ายลงไป
- นอกจากนี้ เงินเฟ้อยังทำให้เราต้องเพิ่มงบประมาณค่าใช้จ่ายขึ้นเพิ่มขึ้นอย่างน้อย อีก 30-50% ในระยะยาว เช่น หากต้องการค่าใช้จ่ายเดือนละ 10,000 บาท (มูลค่าในปัจจุบัน) เราต้องเตรียมเงินถึง 13,500 บาท และ 18,000 บาทต่อเดือน สำหรับค่าใช้จ่ายในอีก 10 และ 20 ปีข้างหน้าตามลำดับกรณีเงินเฟ้อ 3% ต่อปี
จำนวนปีจากนี้ | อัตราเงินเฟ้อ (%) | ||||
1% | 3% | 5% | 8% | 10% | |
5 | 10,510 | 11,593 | 12,763 | 14,693 | 16,105 |
10 | 11,046 | 13,439 | 16,289 | 21,589 | 25,937 |
15 | 11,610 | 15,580 | 20,789 | 31,722 | 41,772 |
20 | 12,202 | 18,061 | 26,533 | 46,610 | 67,275 |
30 | 13,478 | 24,273 | 43,219 | 100,627 | 174,494 |
ลองมาพิจารณาภาพรวมของจำนวนเงินที่เราควรต้องมี ณ วันที่จะเกษียณกัน (ไม่ว่าจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่) โดยปัจจัยหลักที่ต้องใช้คำนวณ นอกจากจำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณ ยังมีเงินเฟ้อ และผลตอบแทนการลงทุนที่ได้และจำนวนปีที่ต้องการใช้เงิน (หรือ อายุขัยที่คาดไว้ ลบด้วยอายุเกษียณ นั่นเอง)
จำนวนปีที่ใช้เงิน | มูลค่าเงินที่ต้องมี หากต้องการใช้เงินเดือน ๆ ละ 30,000 บาท | |||||
อัตราผลตอบแทนหลังหักอัตราเงินเฟ้อ | ||||||
-2% | -1% | 0% | 1% | 2% | 3% | |
10 | 3,988,918 | 3,787,812 | 3,600,000 | 3,424,496 | 3,260,393 | 3,106,853 |
15 | 6,303,540 | 5,828,648 | 5,400,000 | 5,012,577 | 4,661,942 | 4,344,164 |
20 | 8,861,807 | 7,974,166 | 7,200,000 | 6,523,238 | 5,930,221 | 5,409,327 |
30 | 14,814,560 | 12,600,995 | 10,800,000 | 9,327,212 | 8,116,455 | 7,115,681 |
40 | 22,086,482 | 17,714,646 | 14,400,000 | 11,864,458 | 9,906,691 | 8,380,253 |
จากตัวอย่าง หากอายุ 55 ปี และ คาดว่าจะมีอายุขัย 80 ปี (บวกสำรองเผื่อ 5 ปี เป็น 85 ปี) ทำให้มีจำนวนปีที่ต้องใช้เงินสูงถึง 30 ปี หากหลังเกษียณอายุ สามารถลงทุนได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3% แต่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 2% ทำให้อัตราผลตอบแทนช่วงหลังเกษียณหลังหัก อัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ ((1+3%)/(1+2%))-1 = 0.96% หรือประมาณคร่าวๆ 1% ทำให้ ณ วันเกษียณ เราต้องมีเงินอย่างน้อย 9.3 ล้านบาท
แต่ถ้าคงผลตอบแทนไว้ที่ 3% แต่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 4%, ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนช่วงหลังเกษียณหลังหัก อัตราเงินเฟ้อ ติดลบ เป็น -1% ผลคือ ณ วันเกษียณ เราต้องมีเงินอย่างน้อย 12.6 ล้านบาท คือสูงขึ้นถึง 3 ล้านบาท เลยทีเดียว
จะเห็นว่าเราคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบแทนสูงขึ้นได้ เช่น จัดพอร์ตการลงทุนให้มีอัตราผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 5% สูงกว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นท่านควรจัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการลงทุน และระดับความสามารถในการรับความเสี่ยงของท่านด้วย
- ด้านสุขภาพ วัยนี้เป็นวัยที่ต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพ และโดยปกติแล้ว กว่า 80% ของค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษา พยาบาลในชีวิตของคนเราจะใช้อยู่ในช่วงหลังเกษียณ นอกจากนี้ ประกันสุขภาพในวัยนี้ยังค่อนข้างแพงและมักเป็นประกันรายบุคคลที่อาจถูกปฏิเสธการรับประกันกรณีสุขภาพเริ่มมีปัญหา ซึ่งต่างจากวัยทำงานที่มักมีประกันชีวิตกลุ่มแบบเหมารวมจากที่ทำงาน จึงต้องมีการตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และระมัดระวังเรื่องอาหารตามสมควร นอกจากนี้ เรายังอาจทำประกันสุขภาพกลุ่มทางอ้อมเพิ่ม ผ่านทางผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่มีการพ่วงประกันสุขภาพ เช่น เงินฝาก บัตรเดบิต หรือ กองทุน ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของท่านไว้ให้ดีด้วย
- งานอดิเรกหรือกิจกรรมเสริม อย่าอยู่ว่างๆ โดยไม่มีกิจกรรมเลยหลังเกษียณ ก่อนหยุดงานประจำให้ลองหากิจกรรม หรือทำงานเสริมก่อนว่า ชอบและใช่ หรือเป็นภาระเกินความต้องการหรือไม่ งานหลังเกษียณควรเป็นงานที่รักและถนัด ที่ท่านอยากทำจริงๆ มีการบริหารเวลาตามที่ต้องการ และไม่ก่อภาระกับเงินที่เตรียมไว้ใช้หลังเกษียณมากจนเกินไป ทั้งนี้อาจเป็นกิจกรรมเพื่อสังคม งานบุญ สอนหนังสือ หรืองานอดิเรกที่เคยอยากทำมาตลอด แต่ไม่เคยมีเวลาทำ
- ด้านสังคมและการใช้ชีวิต “อย่าอยู่คนเดียว” ปกติหลังเกษียณจากงานประจำ ท่านจะมีเวลาว่างมาก ในระยะยาวเราอาจรู้สึกหดหู่ หงุดหงิด และรู้สึกไม่มีคุณค่าจากการว่างงานในขณะที่เพื่อนและครอบครัวยังคงยุ่งและก้าวหน้าจากการทำงาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า อัลไซเมอร์ หรือโรคต่างๆ ได้ จึงต้องมีสังคม เพื่อนฝูง หรือครอบครัวที่เข้าใจ ความคิดเห็นของคนใกล้ชิดจึงเป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ต้องปรึกษาคนใกล้ตัว และทำความเข้าใจกันก่อนลาออกหรือเกษียณก่อนกำหนดเสมอ
หลังจากพิจารณารอบด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเงินและพบว่าหลังจากรวบรวมเงินทั้งหมดแล้วเพียงพอก็สามารถลุยได้เลยค่ะ