บทความ: ประกันภัย
เจาะลึกและข้อจำกัดของ ประกัน Unit Linked
โดย สุมิตรา อภิรัตน์ นักวางแผนการเงิน CFP®
ที่มา : นิตยสาร Money & Wealth ฉบับเดือนสิงหาคม 2561
จากฉบับที่แล้วเราได้รู้จักประกัน Unit Linked เบื้องต้นแล้ว ฉบับนี้จะลงรายละเอียดเจาะลึกประกัน Unit Linked ซึ่งจะอธิบายถึงรายละเอียดของเบี้ยประกัน รวมทั้งข้อจำกัดของ Unit Linked
รายละเอียดของเบี้ยประกัน Unit Linked แบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 เป็นค่าความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ประกันชีวิตกำหนด โดยผู้ขอเอาประกันภัยสามารถเลือกสัดส่วนความคุ้มครองได้ตามความต้องการ โดยบริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่จะกำหนดความคุ้มครองชีวิตเป็นจำนวนเท่าของเบี้ยประกัน ยกตัวอย่างเช่น เบี้ยประกัน 20,000 บาท เลือกความคุ้มครองชีวิตที่ 50 เท่า ดังนั้นความคุ้มครองชีวิตเท่ากับ 1,000,000 บาท โดยที่ความคุ้มครองที่สามารถเลือกได้นั้นจะขึ้นอยู่กับแบบของแต่ละบริษัท ซึ่งบริษัทจะคำนวณค่าความคุ้มครองเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย และค่าประกันภัย
ส่วนที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามกรมธรรม์ ที่บริษัทเรียกเก็บ เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าดูแลรักษากรมธรรม์ และค่าบริการในการลงทุน ซึ่งจะกำหนดแตกต่างกันไปแล้วแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัท ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์, ค่าธรรมเนียมการรักษากรมธรรม์
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่จัดสรรเข้าไปเป็น การลงทุนในกองทุนรวมตามที่ผู้เอาประกันภัยเลือก ซึ่งบริษัทประกันชีวิตจะนำไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตามคำสั่งของผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทจัดการกองทุนรวมดังกล่าวจะออกหน่วยลงทุนให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีกรมธรรม์ของผู้เอาประกันภัย
ดังนั้น มูลค่ากรมธรรม์ Unit Linked จะคำนวณจากเบี้ยประกันภัย หักด้วยค่าใช่จ่ายในการดำเนินการประกันภัย ค่าประกันภัย (ค่าใช้จ่ายส่วนที่ 1) และหักด้วยค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ การรักษากรมธรรม์ (ค่าใช้จ่ายส่วนที่ 2) ซึ่งจะเหลือเงินที่จัดสรรไปลงทุน โดยจะนำไปซื้อกองทุนที่เลือกไว้ ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจะได้รับจำนวนหน่วยของกองทุน ซึ่งสามารถคำนวนมูลค่ากรมธรรม์ได้ (= จำนวนหน่วย X ราคาต่อหน่วยของกองทุน) โดยบริษัทประกันชีวิตจะส่งรายงานให้กับผู้เอาประกันภัยทราบถึงสถานะทางการเงินของกรมธรรม์ Unit Linked
ข้อจำกัด Unit Linked
มูลค่ากรมธรรม์ Unit Linked จะแปรผันไปตามจำนวนหน่วยและราคาต่อหน่วยของกองทุน โดยที่ผลตอบแทนของกองทุนนั้นมีทั้งทางด้านบวก มูลค่าราคาต่อหน่วยสูงขึ้น และผลตอบแทนทางด้านลบ มูลค่าราคาต่อหน่วยลดลง ดังนั้นเวลาซื้อกรมธรรม์ Unit Linked สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือความสามารถในการรับความเสี่ยงที่เกิดจากการผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนรวม ซึ่งสามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม ผู้เอาประกันภัยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยทั้งหมดที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุนรวม โดยหากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมดี ผู้เอาประกันภัยก็จะได้ผลตอบแทนสูง แต่หากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมไม่ดี ผู้เอาประกันภัยจะได้ผลตอบแทนต่ำหรือบางกรณีอาจขาดทุน และหากผู้เอาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ก่อนกำหนด อาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการยกเลิกก่อนกำหนด
ดังนั้นใครที่จะซื้อ Unit Linked จึงต้องได้รับคำแนะนำจากผู้ที่มีใบอนุญาตโดยต้องมีคุณสมบัติมากกว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิตทั่วไปหรือนายหน้าประกันชีวิตทั่วไป ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้แนะนำการลงทุน และต้องอบรมตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด รวมถึงต้องขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนหรือนายหน้าที่ขายกรมธรรม์ Unit Linked ได้