บทความ: ประกันภัย
ส่งเบี้ยประกันไม่ไหว...ทำอย่างไรดี ?
โดย รัชฏชวลิต พูลทวี นักวางแผนการเงิน CFP®
ที่มา: นิตยสาร Money & Wealth ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2561
ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือในการช่วยโอนความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งกับตนเองและคนในครอบครัว ผู้เอาประกันควรชำระเบี้ยประกันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง แต่ในการดำเนินชีวิตของเราในบางครั้งอาจจะประสบปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้มีกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ของครอบครัว ในกรณีที่มีปัญหาไม่สามารถส่งเบี้ยประกันได้ ผู้เอาประกันมีวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่หลายวิธีที่สามารถเลือกปฏิบัติได้
อันดับแรกผู้เอาประกันชีวิตมีสิทธิที่ได้รับการผ่อนผันการชำระเบี้ย โดยสามารถผ่อนได้ 31 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระเบี้ย โดยยังคงได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์ในกรมธรรม์ตามเดิม แต่กรณีที่มีการเคลมเกิดขึ้นในช่วงผ่อนผันชำระเบี้ย ผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยก่อนถึงจะสามารถเคลมประกันได้ หรือในกรณีที่เสียชีวิตในช่วงผ่อนผันชำระเบี้ย บริษัทหรือผู้รับประกันก็จะจ่ายเงินชดใช้ตามสัญญาหักด้วยเบี้ยประกันที่ยังไม่ได้ชำระในช่วงเวลาผ่อนผันให้กับผู้รับผลประโยชน์
ในกรณีถ้าครบเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยแล้วยังมีเงินไม่เพียงพอ ผู้เอาประกันสามารถขอเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกันภัยเป็นราย 6 เดือน ราย 3 เดือน หรือรายเดือน แต่ถ้าในกรณีที่พ้นระยะเวลาผ่อนผันแล้ว ผู้เอาประกันชีวิตยังไม่ได้ชำระเบี้ยประกัน และกรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืนเงินสดมากกว่าเบี้ยประกัน บริษัทจะดำเนินการกู้อัตโนมัติจากมูลค่าเงินสดมาชำระเบี้ยประกันโดยอัตโนมัติในวันที่ 45 นับจากวันครบกำหนดชำระเบี้ย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิม และจะเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันครบกำหนดชำระเบี้ยตามอัตราที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
กรณีที่ถ้าผู้เอาประกันไม่ชำระเงินกู้ ปีถัดไปไม่ได้ชำระ ก็จะเข้าสู่ระบบกู้อัตโนมัติเหมือนเดิม แต่ข้อควรระวังคือหากมูลค่าเวนคืนเงินสดไม่พอ กรมธรรม์ก็จะแปลงเป็นแบบขยายเวลา หรือแบบใช้เงินสำเร็จเฉพาะในกรณีผู้เอาประกันมีสุขภาพต่ำกว่ามาตรฐานทางผู้รับประกันจะระบุไว้ที่ใบตอบรับข้อเสนอใหม่ว่ามีสิทธิแปลงกรมธรรม์เป็นแบบสำเร็จเท่านั้น แต่ถ้ากรณีไม่มีมูลค่าก็จะส่งผลให้กรมธรรม์ขาดอายุไม่มีความคุ้มครอง ซึ่งผู้เอาประกันสามารถขอต่ออายุกรมธรรม์ได้ภายใน 5 ปี โดยการชำระเบี้ยประกันย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ยในปีที่ไม่ได้ชำระและชำระเงินกู้กรมธรรม์ถ้ามี พร้อมแนบแบบฟอร์มรับรองสุขภาพ ซึ่งถ้าผู้เอาประกันมีสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอาจจะมีการเพิ่มเบี้ยประกันตามความเสี่ยงหรือบอกปัดไม่รับการต่ออายุกรมธรรม์
ในกรณีถ้าผู้เอาประกันไม่ประสงค์ชำระเบี้ยประกันต่อและไม่อยากเป็นหนี้บริษัทเนื่องจากการกู้อัตโนมัติ ผู้เอาประกันมีสิทธิ์เลือกแปลงกรมธรรม์ตามความต้องการและความเหมาะสม โดยสามารถแปลงเป็น มูลค่าเงินสด มูลค่าขยายเวลา หรือ มูลค่าใช้เงินสำเร็จได้หากกรมธรรม์นั้นมีมูลค่าแล้ว ซึ่งมูลค่าเงินสดคือกรณีที่ผู้เอาประกันต้องการบอกเลิกสัญญา และรับเงินตามตารางที่ระบุไว้แล้วมีผลทำสัญญาสิ้นสุดลง มูลค่าขยายเวลา คือกรณีที่ผู้เอาประกันต้องการความคุ้มครองเท่าเดิม แต่บริษัทจะคุ้มครองต่อไปได้อีกกี่ปีกี่วัน ตามในตารางที่ระบุไว้ และมูลค่าใช้เงินสำเร็จ กรณีที่ผู้เอาประกันต้องการความคุ้มครองลดลง ตามในตารางที่ระบุไว้ แต่ระยะเวลาคุ้มครองเท่าเดิม
สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาคงได้รับความรู้และแนวทางในการเลือกวิธีที่การแก้ไขที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด แต่ถ้าต้องการอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โทรศัพท์ : 0 2515 3999 สายด่วน: 1186