logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: บริหารจัดการเงิน

7 ข้อผิดพลาดในการช้อปปิ้ง ออนไลน์และวิธีแก้ไข

เผยแพร่วันที่ 28 พ.ย. 2567

 

เคยสังเกตหรือไม่ว่าเงินในบัญชีถึงหมดเร็ว โดยเฉพาะในยุคที่การชอปปิงออนไลน์ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หลายคนตกหลุมพลางของความสะดวกสบายและกลยุทธ์การตลาด จนเผลอใช้จ่ายเกินตัวโดยไม่รู้ตัว จึงกดซื้อของด้วยความผิดพลาดและหลายคนผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไรก็ตาม หากรู้จักความผิดพลาดในการชอปปิงออนไลน์ ก็สามารถหาทางแก้ไขได้ทัน

 

การซื้อด้วยอารมณ์: เมื่ออารมณ์นำหน้าสติ

“วันนี้รู้สึกแย่มาก เลยอยากชอปปิงให้หายเครียด” ประโยคที่ได้ยินบ่อย ๆ และเมื่อพูดจบหลายคนมักเปิดเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันชอปปิง ซึ่งเหมือนเป็นสัญชาตญาณที่เมื่อเครียดจากงานก็ต้องการได้ความสุขเร็ว ๆ และการกดซื้อของก็เป็นวิธีที่ง่ายเพื่อบำบัดความเครียด

ที่ผ่านมา พบว่าหลายคนจะใช้การชอปปิงเป็นกลไกในการจัดการอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าเครียดจากการทำงาน เหงาหรือต้องการการยอมรับ ต้องการรางวัลให้ตัวเอง หรือต้องการความสุขแบบฉับพลัน เพราะการกดปุ่มซื้อเพียงครั้งเดียวสามารถปลดปล่อยสารแห่งความสุขในสมองได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ความสุขจากการชอปปิงอาจเหมือนไฟฟ้าช็อต ที่วูบเดียวแล้วก็หายไป ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกผิดและภาระหนี้สินที่พอกพูน และปัญหายิ่งรุนแรงขึ้นในยุคที่การชอปปิงออนไลน์ทำได้ง่ายดายตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่ไหน เวลาใด ก็สามารถกดซื้อได้ทันทีที่อารมณ์พาไป โดยไม่ต้องคิดให้รอบคอบเหมือนการเดินไปซื้อของที่ร้าน

วิธีแก้ไข

ใช้กฎ 24 ชั่วโมง

  • บันทึกสิ่งที่อยากซื้อไว้ในรายการ Wishlist
  • รอ 24 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจซื้อ
  • ทบทวนเหตุผลในการซื้ออีกครั้ง

สร้างกิจกรรมทดแทน

  • ออกกำลังกาย
  • พูดคุยกับเพื่อน
  • ทำงานอดิเรก หรือเขียนไดอารี่บันทึกอารมณ์

 

กับดักส่วนลด: เมื่อ "ถูก" ไม่ได้แปลว่า "คุ้ม"

“ซื้อตอนนี้ประหยัดได้ 2,000 บาท” ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในหัวของหลายคน ขณะที่จ้องมองกระเป๋าถือใบสวยบนหน้าจอมือถือ ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นตัวเลขนับถอยหลัง “เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 59 นาที” พร้อมข้อความ “เหลือสินค้าเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น”

นี่คือกับดักที่นักชอปออนไลน์หลายคนเจอ โดยเฉพาะในยุคที่กลยุทธ์การตลาดถูกออกแบบมาให้กระตุ้นความรู้สึกเร่งด่วนและความกลัวที่จะพลาดดีล ผู้ขายหลายรายใช้เทคนิค “ส่วนลดลวง” ด้วยการขึ้นราคาสินค้าก่อนจะลดราคา หรือเปรียบเทียบกับราคาที่สูงเกินจริง เพื่อให้ดูเหมือนว่าลูกค้าได้ส่วนลดมากกว่าความเป็นจริง ขณะเดียวกันการสร้างความเร่งด่วนผ่านการนับถอยหลังเวลา หรือแสดงจำนวนสินค้าที่เหลือน้อย ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อแบบไม่ทันคิดให้รอบคอบ ทำให้อาจจ่ายเงินไปกับของที่ซื้อมาและไม่เคยได้ใช้ เพราะถูกกดดันด้วยความรู้สึกว่าต้องรีบตัดสินใจ

วิธีแก้ไข

ติดตามราคาอย่างเป็นระบบ

  • เปรียบเทียบราคาจากหลายร้านค้า
  • จดบันทึกราคาที่เคยซื้อ

ตั้งงบประมาณล่วงหน้า

  • กำหนดจำนวนเงินที่ยอมจ่าย ไม่ซื้อเกินงบแม้จะลดราคา
  • คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมค่าส่ง

 

ความลวงของความสะดวก: เมื่อง่ายเกินไปกลายเป็นอันตราย

“สะดวกมาก แค่ปลายนิ้วสัมผัส อาหารก็มาส่งถึงที่ เลยสั่งทุกมื้อ คิดว่าประหยัดเวลาได้เยอะ” เป็นประโยคของผู้ที่ชื่นชอบในความสะดวกสบายของการสั่งอาหารออนไลน์ แต่ความสะดวกกลับกลายเป็นดาบสองคม เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายย้อนหลังอาจพบว่าได้จ่ายเงินไม่ใช่แค่ค่าอาหาร แต่รวมถึงค่าจัดส่ง ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม และค่าบริการพิเศษต่าง ๆ ที่แอบแฝงมากับความสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้น สุขภาพแย่ลงเพราะขาดการเคลื่อนไหว และมักสั่งอาหารเกินความจำเป็นเพื่อให้คุ้มค่าส่ง

วิธีแก้ไข

กำหนดวันชอปปิงในแต่ละสัปดาห์

  • วางแผนการซื้อล่วงหน้า รวบรวมรายการซื้อให้คุ้มค่าส่ง
  • เลือกวันที่มีโปรโมชันพิเศษ

สร้างระบบตรวจสอบก่อนซื้อ

  • มีของชิ้นนี้อยู่แล้วหรือไม่
  • ต้องใช้เมื่อไร มีทางเลือกอื่นที่ประหยัดกว่าหรือไม่

 

ซื้อเพื่ออนาคต: เมื่อความหวังไม่ตรงความจริง

เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าอาจถอนหายใจเบา ๆ เพราะเต็มไปด้วยเสื้อผ้าไซส์ S กว่าสิบตัว ทุกชิ้นยังติดป้ายราคา แต่ซื้อมาเมื่อสองปีก่อนตอนลดราคา ด้วยความหวังว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ จึงซื้อเก็บไว้ก่อน เพราะมั่นใจว่าต้องได้ใส่แน่ ๆ

กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างของการคาดการณ์ที่ผิดพลาด ที่หลายคนมองโลกในแง่ดีเกินไป ประเมินความสามารถตัวเองสูงเกินจริง และมักไม่คำนึงถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และยังถูกกดดันจากมาตรฐานในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เผลอซื้อของด้วยความหวังมากกว่าความเป็นจริง

วิธีแก้ไข

ซื้อตามความเป็นจริง ไม่ใช่ความฝัน

  • ซื้อของที่ใช้ได้จริงในตอนนี้
  • กำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้ แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อย ๆ

สร้างแรงจูงใจที่ถูกต้อง

  • ซื้อของเพื่อให้รางวัลตัวเองตามความสำเร็จจริง
  • ไม่ใช้การชอปปิงเป็นแรงจูงใจหลัก

 

การละเลยต้นทุนระยะยาว: เมื่อถูกที่สุดไม่ใช่ดีที่สุด

หลายคนกำลังท่องแอปพลิเคชันชอปปิงออนไลน์และเห็นของชิ้นหนึ่งจากต่างประเทศ พร้อมคำว่า “ของดีราคาถูก” จึงตัดสินใจสั่งซื้อ เพราะมองว่าราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ดังในไทยถึงครึ่งหนึ่ง และรู้สึกดีใจที่ได้ของดีราคาประหยัด แต่ความรู้สึกดีอยู่ได้เพียง 6 เดือน เมื่อของชิ้นนั้นเริ่มมีเสียงดังผิดปกติและหยุดทำงาน จึงพยายามติดต่อผู้ขาย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ และไม่สามารถซ่อมในประเทศไทยได้

ตัวอย่างดังกล่าว ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนให้รู้ว่า ราคาถูกที่สุดไม่ได้หมายถึงคุ้มค่าที่สุดเสมอไป ดังนั้น ควรคำนึงถึงต้นทุนระยะยาว ทั้งค่าซ่อมแซม ค่าอะไหล่ การรับประกัน และเวลาที่ต้องเสียไปกับการแก้ปัญหาต่าง ๆ

วิธีแก้ไข

คำนวณต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน

  • ราคาซื้อ + ค่าบำรุงรักษา
  • ค่าพลังงานที่ใช้ ค่าเสียโอกาส

พิจารณาปัจจัยอื่นนอกจากราคา

  • คุณภาพและความทนทาน ความน่าเชื่อถือของแบรนด์
  • การรับประกันและบริการหลังการขาย

 

การเปรียบเทียบทางสังคม: เมื่อการชอปปิงกลายเป็นการแข่งขัน

ทุกวันนี้จะสังเกตพบว่าเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ที่ทำงานถือกระเป๋ารุ่นใหม่ ก็ต้องการมีกระเป๋าเหมือนเพื่อน หรือเห็นเพื่อนซื้อกระเป๋าใบใหม่ ก็รู้สึกต้องตาม จนกลายเป็นวงจรที่หยุด (ชอปปิงตาม) ไม่ได้

กรณีดังกล่าว สะท้อนให้เห็นผลกระทบของการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นในสังคม โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียที่เห็นไลฟ์สไตล์ของคนอื่นตลอดเวลา การชอปปิงจึงไม่ใช่แค่การซื้อของใช้ แต่กลายเป็นการแข่งขันเพื่อสร้างตัวตนและการยอมรับ จนนำไปสู่ปัญหาทั้งด้านการเงินและสุขภาพจิต ทั้งความเครียด ความวิตกกังวล และความรู้สึกด้อยค่าเมื่อไม่สามารถตามเทรนด์ได้ทัน

วิธีแก้ไข

กำหนดตัวตนและสไตล์ของตัวเอง

  • เลือกซื้อสิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ไม่ตามกระแสโดยไม่จำเป็น
  • สร้างความภูมิใจจากการใช้เงินอย่างมีวินัย
  • เห็นความสำคัญของการวางแผนการเงิน

 

การขาดการวางแผน: รากเหง้าของปัญหาทั้งหมด

หลายคนเมื่อถึงสิ้นปีก็คำนวณค่าใช้จ่ายการชอปปิงย้อนหลัง พบว่า 1 ปีที่ผ่านมาเสียเงินไปกับของที่ไม่จำเป็นเป็นจำนวนหลักหมื่นบาท ทั้ง ๆ ที่ของหลายอย่างก็มีอยู่แล้ว บางอย่างก็ยังไม่ได้แกะใช้เลย ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากการไม่วางแผน ทำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน ทั้งการซื้อของที่มีอยู่แล้วเพราะลืมว่าเคยซื้อ การซื้อของใช้มากเกินความจำเป็นจนใช้ไม่หมด

ที่สำคัญ หลายคนมักจะรีบซื้อทันทีที่เห็น เลยพลาดโอกาสการประหยัดเงิน ทั้งคูปองส่วนลด โปรโมชันพิเศษ บางครั้งก็ต้องจ่ายค่าส่งครั้งละเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่หากรวมออเดอร์ก็ประหยัดได้พอสมควร

วิธีแก้ไข

จัดทำรายการความต้องการ

  • แยกหมวดหมู่สินค้า จัดลำดับความสำคัญ
  • กำหนดงบประมาณสำหรับแต่ละรายการ

วางแผนการชอปปิงตามเทศกาล

  • สร้างปฏิทินโปรโมชัน
  • เตรียมงบประมาณล่วงหน้า รวบรวมคูปองและส่วนลด

 

เปลี่ยนข้อผิดพลาดให้เป็นบทเรียน

การชอปปิงออนไลน์เป็นดาบสองคม ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและความเสี่ยงทางการเงิน แต่ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากแต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง โดยพบว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการชอปปิง มักเริ่มต้นจากการยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง แล้วค่อย ๆ พัฒนานิสัยการใช้จ่ายที่ดีขึ้น จนสามารถสร้างสมดุลระหว่างความสุขในการชอปปิงและสุขภาพทางการเงินได้อย่างลงตัว

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th