บทความ: ประกันภัย
5 เคล็ดลับสร้างแผนประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ
โดย ณรงค์ศักดิ์ พิริยะพงษ์ นักวางแผนการเงิน CFP®
ปัจจุบันคงต้องยอมรับกันว่า ประเทศไทยว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะจากข้อมูลสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ เดือนธันวาคม 2566 พบว่าไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศจำนวน 13,064,929 คน คิดเป็น 20.17% ของประชากรรวม และเมื่อระบุเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 8,901,145 คน จะคิดเป็น 14% ของประชากรรวม ทำให้เรื่องของความเป็นอยู่ และการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีแผนการจัดการเป็นอันดับแรก ๆ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการป้องกันและรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมของสายตาที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดินหรือการหยิบสิ่งของที่อาจเกิดความผิดพลาดได้ง่ายกว่าวัยหนุ่มสาว
ข้อมูลเพิ่มเติม จากกรมควบคุมโรค ในแต่ละปีจะพบอุบัติเหตุผู้สูงอายุหกล้มประมาณ 3 ล้านราย และบาดเจ็บต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 60,000 รายต่อปี โดยมีผู้เสียชีวิตจากการหกล้มเฉลี่ย วันละ 4 ราย และยังเป็นเหตุให้ผู้สูงอายุเกิดความพิการ ส่งผลกระทบต่อจิตใจ หวาดกลัวการหกล้ม และต้องพึ่งพาผู้อื่น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจากข้อมูลการวางแผนประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุประกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากเหตุผลหลายประการ ดังนี้
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามอายุ ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุสูงขึ้น เช่น การลื่นล้ม หรือการเกิดอุบัติเหตุในบ้าน เนื่องจากความเสื่อมของร่างกาย ประกันอุบัติเหตุสามารถช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
การลดภาระทางการเงิน การรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุอาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุที่อาจต้องการการดูแลพิเศษ ประกันอุบัติเหตุช่วยลดภาระทางการเงินทั้งของผู้สูงอายุและครอบครัว
การชดเชยรายได้ สำหรับผู้สูงอายุที่ยังทำงานหรือมีรายได้จากกิจกรรมต่าง ๆ หากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ประกันอุบัติเหตุที่มีค่าชดเชยรายวันจะช่วยชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปในช่วงที่พักฟื้น
ความสบายใจและความมั่นคง การมีประกันอุบัติเหตุทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในชีวิตประจำวัน เนื่องจากรู้ว่ามีความคุ้มครองที่สามารถช่วยเหลือได้ในยามฉุกเฉิน
การดูแลที่ครบถ้วน บางแผนประกันอุบัติเหตุอาจครอบคลุมถึงบริการดูแลพิเศษหลังการรักษา เช่น การฟื้นฟูสภาพ หรือการติดตามการรักษา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติมหลังจากประสบอุบัติเหตุ
เคล็ดลับสำหรับการพิจารณาเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
อายุ ตรวจสอบช่วงอายุที่ประกันครอบคลุม โดยแต่ละบริษัทจะมีกำหนดช่วงอายุที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่ บริษัทจะกำหนดช่วงอายุ รับประกันไว้ถึงไว้ถึง 70 ปี ในขณะที่บางบริษัทกำหนดถึง 99 ปี ซึ่งสามารถทราบข้อมูลจากเอกสาร ตัวแทนผู้นำเสนอขาย หรือรายละเอียดบนเว็บไซต์
ความคุ้มครองที่เพียงพอเหมาะสมกับเบี้ยที่ชำระ การเลือกแบบประกันอุบัติเหตุ นอกเหนือจากการชดเชยจากการสูญเสียชีวิตหรืออวัยวะแล้ว ควรพิจารณาที่มีความคุ้มครองครอบคลุมถึงการรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสภาพร่างกาย และการดูแลหลังการรักษาเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยควรพิจารณาให้เหมาะสมรายได้และความสามารถในการจ่ายของผู้สูงอายุ
พิจารณาเงื่อนไขกรมธรรม์และข้อยกเว้น การศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมีความสำคัญ เนื่องจากมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ต้องทราบ เช่น ข้อยกเว้นการจ่ายค่าชดเชย ความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมทันที และขอบเขตของความคุ้มครอง ซึ่งสามารถพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ จากเอกสารเสนอขาย และเอกสารกรมธรรม์
เช็กสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลที่มีอยู่แล้ว ตรวจสอบสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ เช่น สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม หรือกรมธรรม์อื่น ๆ ที่เคยซื้อไว้ เพื่อนำมาพิจารณาตัดสินใจก่อนการซื้อประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ
การใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ เป็นตัวบ่งบอกถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุ หากผู้สูงอายุชอบทำกิจกรรม เช่น เดินไปตลาด หรืออยู่แต่บ้าน การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์จะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองที่ตรงตามความต้องการ
ทั้งนี้ การพิจารณา อาจทำเป็นตารางเปรียบเทียบเพื่อให้ง่ายต่อการทำข้อมูลให้อยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน โดยตัวอย่างเป็นการพิจารณาเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุ ของคุณณรงค์ศักดิ์ อายุ 50 ปี เพศชาย ซึ่งมีความต้องการความคุ้มครองชีวิตอยู่ในวงเงินประมาณ 1,000,000 บาท และมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ โดยเพิ่มเติมจากสิทธิการรักษาที่มีอยู่แล้วบ้างบางส่วน จึงหาข้อมูลมาเปรียบเทียบ ดังนี้
ข้อมูล |
บริษัท ก |
บริษัท ข |
บริษัท ค (ค่าชดเชยรายวัน) |
ประเภทประกัน |
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล |
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล |
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล |
ค่ารักษาพยาบาล |
100,000 บาทต่ออุบัติเหตุ |
120,000 บาทต่ออุบัติเหตุ |
100,000 บาทต่ออุบัติเหตุ |
คุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุ |
1,000,000 บาท |
1,200,000 บาท |
1,000,000 บาท |
ค่าเบี้ยประกันต่อปี |
6,000 บาท |
7,500 บาท |
7,000 บาท |
ค่าชดเชยรายวัน |
ไม่มี |
ไม่มี |
1,000 บาทต่อวัน |
จุดเด่น |
ค่ารักษาพยาบาลสูง |
ความคุ้มครองชีวิตสูงสุด |
มีค่าชดเชยรายวันสำหรับการนอนโรงพยาบาล |
ข้อควรพิจารณา |
ค่าเบี้ยประกันปานกลาง |
ค่าเบี้ยสูงกว่า |
ค่าเบี้ยสูงกว่าบางบริษัท |
ข้อมูลการเปรียบเทียบที่ได้ นำมาสรุปการพิจารณา ดังนี้
บริษัท ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่สูง (100,000 บาท) ด้วยค่าเบี้ยประกันที่อยู่ในระดับปานกลาง (6,000 บาทต่อปี)
บริษัท ข เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตสูงสุด (1,200,000 บาท) แต่ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าบริษัทอื่น (7,500 บาทต่อปี)
บริษัท ค เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค่าชดเชยรายวันสำหรับการนอนโรงพยาบาล (1,000 บาทต่อวัน) นอกเหนือจากความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลปกติ (7,000 บาทต่อปี)
ทั้งนี้ การเลือกแผนประกันที่เหมาะสม ควรนำข้อมูลการเปรียบเทียบดังกล่าว ไปพิจารณาประกอบกับเคล็ดลับการเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุข้างต้น เพื่อให้ได้แบบประกันที่ครอบคลุมเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด
ประกันอุบัติเหตุเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงทางการเงินจากการรักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและเงินเก็บไม่ให้รั่วไหลกับค่ารักษาพยาบาล ด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามอายุ การมีประกันอุบัติเหตุช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล การฟื้นฟูสภาพร่างกาย หรือการชดเชยรายได้ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้ในช่วงพักฟื้น
นอกจากนี้ ประกันอุบัติเหตุยังช่วยลดภาระทางการเงินที่อาจตกอยู่กับครอบครัวเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน การวางแผนและมีประกันอุบัติเหตุเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นคงในชีวิตช่วงบั้นปลาย ทำให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสบายใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน ความสำคัญของประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุจึงไม่ควรถูกมองข้าม เป็นการลงทุนที่มีค่าในอนาคตและความปลอดภัยของชีวิต