logo
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับสมาคม
  • ประเภท/สิทธิประโยชน์ของสมาชิก
  • เอกสารดาวน์โหลด
  • แหล่งข้อมูล
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
Previous Next
แหล่งข้อมูล
  • ประกาศสมาคม
  • ข่าวสมาคม
  • กิจกรรมสมาคม
  • เอกสารเผยแพร่
  • วิดีโอ
  • หน่วยงานพันธมิตร
บทความ: เกษียณ

เส้นทางอิสรภาพทางการเงิน: จากความฝันสู่ความจริง ที่ใครๆ ก็ทำได้

 

คุณเคยฝันถึงชีวิตที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง มีเวลาทำสิ่งที่รัก และเกษียณได้เร็วหรือไม่ ถ้าใช่ สิ่งที่คุณกำลังนึกถึง คือ อิสรภาพทางการเงิน (Financial Freedom) ซึ่งหมายถึงสถานะที่บุคคลมีรายได้เพียงพอจากการลงทุนหรือแหล่งรายได้แบบ Passive Income เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องทำงานประจำอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การบรรลุอิสรภาพทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ วินัยทางการเงินที่เข้มแข็ง และความอดทนในระยะยาว

 

อิสรภาพทางการเงิน: ความฝันที่เป็นจริงได้

อิสรภาพทางการเงิน คือ สภาวะที่มีรายได้เพียงพอจากทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสด (Cash Flow Generating Assets) โดยไม่ต้องทำงานประจำ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง แต่คำว่าอิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้หมายถึงการมีเงินล้นฟ้าหรือใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย แต่หมายถึงการมีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตามแบบฉบับของตัวเอง

ตัวอย่าง

นาย ก. อายุ 45 ปี มีเงินออม 10 ล้านบาท ลงทุนในหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี เท่ากับว่ามีรายได้ 500,000  บาทต่อปี หรือประมาณ 41,000 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องทำงานประจำ ถ้าค่าใช้จ่ายของนาย ก. อยู่ที่ 35,000 บาทต่อเดือน ก็ถือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว

 

ทำไมอิสรภาพทางการเงินถึงสำคัญ

  • ความมั่นคงในชีวิต เมื่อมีอิสรภาพทางการเงิน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินพอใช้จ่ายในอนาคตหรือไม่ ทำให้ชีวิตมีความมั่นคงมากขึ้น
  • อิสระในการเลือก สามารถเลือกทำในสิ่งที่รักและมีความหมายต่อชีวิต โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนทางการเงินเป็นหลัก
  • คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเวลาให้กับครอบครัว งานอดิเรก และการพัฒนาตัวเองมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจ
  • ความสามารถในการช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง สามารถอุทิศเวลาและทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้น

 

เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน

การสร้างอิสรภาพทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปถ้ามีแผนที่ชัดเจนและมุ่งมั่นทำตามแผน นี่คือขั้นตอนสำคัญในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน

  • กำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ควรรู้ก่อนว่าต้องการอะไร อิสรภาพทางการเงินหน้าตาเป็นอย่างไร ต้องการมีเงินเท่าไรถึงจะพอใช้โดยไม่ต้องทำงานประจำ วิธีการ คือ คำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือนคูณด้วย 12 เดือน แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ
    ตัวอย่าง ต้องการใช้เงินเดือนละ 30,000 บาท และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่อีก 30 ปีหลังเกษียณ ก็ต้องมีเงิน 30,000 x 12 x 30 = 10,800,000 บาท แต่อย่าเพิ่งตกใจกับตัวเลขนี้ เพราะเป็นแค่ตัวเลขคร่าว ๆ เท่านั้น ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ เพราะเงินที่มีจะงอกเงยขึ้นเรื่อยจากการนำไปลงทุน
  • ลงทุน การลงทุนเป็นกุญแจสำคัญสู่อิสรภาพทางการเงิน เพราะการออมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากค่าเงินมักลดลงเรื่อย ๆ ตามอัตราเงินเฟ้อ จึงควรเริ่มต้นด้วยการลงทุนอย่างน้อย 15 - 20% ของรายได้ในแต่ละเดือน
    สำหรับมือใหม่ อาจเริ่มการลงทุนในกองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุนดัชนี (Index Fund) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่ำและให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม อีกวิธีที่ง่ายและได้ผลดี คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) คือ การลงทุนเป็นประจำทุกเดือนในจำนวนที่เท่า ๆ กัน ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และสร้างวินัยในการลงทุน
  • ลดหนี้สินให้เหลือน้อยที่สุด หนี้สินเป็นอุปสรรคสำคัญในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้นอกระบบ ดังนั้น ถ้ามีหนี้สิน ให้พยายามชำระให้หมดโดยเร็วที่สุด
  • สร้างเงินออมฉุกเฉิน เงินออมฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน ควรมีเงินออมอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งการมีเงินออมฉุกเฉินจะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเวลาเกิดเรื่องไม่คาดคิด และไม่ต้องพึ่งพาการกู้ยืมซึ่งอาจทำให้เป็นหนี้เพิ่ม
  • สร้างแหล่งรายได้หลายทาง นอกจากงานประจำ การสร้างแหล่งรายได้หลายทาง เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้น
  • ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง การมีวินัยในการใช้จ่ายและรู้จักแยกแยะระหว่างความต้องการและความจำเป็นเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน
  • วางแผนเกษียณอายุ เริ่มออมและลงทุนเพื่อวัยเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเวลาในการสร้างผลตอบแทนทบต้นที่มากขึ้น

 

นอกจากขั้นตอนพื้นฐานที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้บรรลุอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น

  • ใช้พลังของการทบต้น (Compound Interest) อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวว่า ดอกเบี้ยทบต้นเป็นปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ” ยิ่งเริ่มออมและลงทุนเร็วเท่าไร ก็จะได้ประโยชน์จากการทบต้นมากขึ้นเท่านั้น เช่น ถ้าเริ่มลงทุน 1,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่อายุ 25 ปี และได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี เมื่ออายุ 60 ปี จะมีเงินประมาณ 1.9 ล้านบาท แต่ถ้าคุณเริ่มตอนอายุ 35 ปี จะมีเงินเพียง 860,000 บาทเท่านั้น
  • ลงทุนในตัวเอง การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด คือ การลงทุนในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเพิ่มเติม การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือการดูแลสุขภาพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  • สร้างแหล่งรายได้แบบ Passive Income เป็นรายได้ที่ได้รับโดยไม่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น รายได้จากการลงทุน ค่าลิขสิทธิ์ หรือรายได้จากธุรกิจออนไลน์ การมี Passive Income จะช่วยให้มีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้น
  • หาที่ปรึกษาทางการเงิน การมีนักวางแผนการเงินช่วยวางแผนให้จะยิ่งดี เพราะนักวางแผนการเงินจะมองได้รอบด้านมากขึ้น เช่น การลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจากการเจ็บป่วย หรือเหตุอื่น ๆ ในชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้รายได้ที่ตั้งใจจะเตรียมไว้ใช้ไม่รั่วไหลในระหว่างทาง
  • มีความยืดหยุ่นในแผนการเงิน ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้น แผนการเงินควรมีความยืดหยุ่นพอที่จะปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ทบทวนและปรับแผนการเงินเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง

 

มีเท่าไร ถึงเรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรวยล้นฟ้า แต่คือสถานะที่มีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิตตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป ซึ่งแต่ละคนก็จะมีนิยามของการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป แต่คำถามตามมา คือ จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องมีเงินเท่าไรถึงจะพอ คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และค่าใช้จ่ายของตัวเอง ลองจินตนาการดูว่าถ้าไม่ต้องทำงานแล้ว อยากใช้ชีวิตแบบไหน อยากอยู่บ้านหลังใหญ่ อยากขับรถหรู อยากเที่ยวต่างประเทศบ่อย ๆ หรืออยากใช้ชีวิตเรียบง่าย เมื่อรู้แล้วว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน ก็ลองคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ดู ว่าควรมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนละเท่าไร

สูตร เงินที่ต้องการ = ค่าใช้จ่ายต่อปี x 25

เช่น ถ้ามีค่าใช้จ่ายปีละ 600,000 บาท จะต้องมีเงินประมาณ 15 ล้านบาท (600,000 x 25) จึงจะถือว่ามีอิสรภาพทางการเงิน (เหตุผลที่ต้องคูณ 25 เพราะหลักการที่เรียกว่า กฎ 4% ซึ่งเชื่อว่าถ้าถอนเงินออกมาใช้ปีละ 4% ของเงินลงทุนทั้งหมด เงินก้อนนั้นจะอยู่ได้นานถึง 30 ปี)

หมายเหตุ: สูตร x 25 สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอายุขัยที่แต่ละคนประมาณการ ซึ่งอาจไม่เท่ากัน

 

จากตัวอย่าง เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการคำนวณเท่านั้น ในความเป็นจริง จำนวนเงินที่ต้องการอาจจะน้อยกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ ถ้าพอใจกับชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ค่าใช้จ่ายก็จะน้อยลง
  • แหล่งรายได้อื่น ๆ เช่น เงินบำนาญ สวัสดิการจากภาครัฐ
  • สถานที่อยู่อาศัย ค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศที่ค่าครองชีพถูกกว่า
  • สุขภาพ ถ้าสุขภาพแข็งแรง ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลก็จะน้อยลง
  • ทักษะและความสามารถ ถ้ามีความสามารถพิเศษก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้โดยไม่ต้องทำงานประจำ

 

อิสรภาพทางการเงินไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไป ด้วยการวางแผนที่ดี มีวินัย และอดทน ทุกคนสามารถก้าวไปสู่จุดนั้นได้ แม้ว่าเส้นทางอาจจะท้าทาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับความพยายามอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารของสมาคมได้ทาง

   ประกาศความเป็นส่วนตัวการใช้งานคุ๊กกี้        ประกาศความเป็นส่วนตัว        แผนผังเว็บไซต์
สงวนลิขสิทธิ์ 2560 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
CFP®,CERTIFIED FINANCIAL PLANNER™, and are trademarks owned outside the U.S. by Financial Planning Standards Board Ltd.
Thai Financial Planners Association is the marks licensing authority for the CFP marks in Thailand, through agreement with FPSB.

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ชั้น 6 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์: 0 2009 9393
Website: www.tfpa.or.th