บทความ: ภาษีและมรดก
วางแผนมรดกส่งต่อในยุค Digital
โดย สุนิติ ถนัดวณิชย์ นักวางแผนการเงิน CFP®
เผยแพร่ ณ วันที่ 18 ต.ค. 2566
ปัจจุบันการจัดการทางการเงิน เช่น การโอนเงินรับจ่าย การลงทุน เข้าสู่ยุค Digital ที่ต้องใช้ผ่านเครื่องมือ หรือ Platform มากขึ้น เห็นได้จากสถิติจำนวนบัญชีซื้อขาย Cryptocurrency ในประเทศไทย มีอยู่เกือบ 3 ล้านบัญชี หรือ จากสถิติการใช้ Mobile Banking ในไทย ดังนั้น นักลงทุนต้องมีการปรับตัวหรือเรียนรู้วิธีการจัดการมากขึ้น และเมื่อเจ้าของบัญชีหรือเจ้าของเงินลงทุนเสียชีวิต จะส่งต่อกันอย่างไรในยุค Digital ให้ถูกกฎหมาย และส่งต่อได้จริง
ในการส่งต่อทรัพย์สินในยุค Digital มี 2 องค์ประกอบหลัก คือ 1.มีผลทางกฎหมาย และ 2.มีผลถ่ายโอนสินทรัพย์ได้จริง
1.มีผลทางกฎหมาย มี 2 ทางเลือกย่อย ๆ เพื่อให้มีผลทางกฎหมาย คือ ทำให้ผู้รับมรดก เป็นทายาทโดยพินัยกรรม หรือ เป็นทายาทโดยธรรม ซึ่งมีหลายบทความกล่าวว่า จะให้ผู้รับมรดกเป็นทายาทโดยพินัยกรรม ต้องทำพินัยกรรม ซึ่งการทำพินัยกรรมให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย มี 5 รูปแบบ คือแบบธรรมดา แบบเขียนด้วยลายมือตนเอง แบบฝ่ายเมือง แบบลับ และแบบวาจา
โดยทายาทโดยพินัยกรรมมี (บุริม) สิทธิเหนือกว่าทายาทโดยธรรม การส่งต่อแบบไม่วางแผน จะทำให้ทายาทโดยธรรม ต้องดูหลักเกณฑ์ในการแบ่งทรัพย์มรดก ซึ่งเป็นไปได้สูงว่า ทายาทโดยธรรม อาจจะได้ทรัพย์มรดกแบบไม่เป็นธรรมได้ กล่าวคือ ทายาทที่ดูแลเจ้ามรดกมาตลอดอาจจะได้หรือไม่ได้ทรัพย์มรดกก็ได้ ในขณะที่ทายาทที่ไม่ดูแลก็จะได้ทรัพย์มรดกตามเกณฑ์ของกฎหมาย ดังนั้นทางเลือกดีที่สุดในการส่งต่อทรัพย์สิน คือ การทำพินัยกรรม ซึ่งจะช่วยให้ทายาทที่ได้รับมรดกถูกฝาถูกตัวถูกใจเจ้ามรดกมากที่สุด
2.มีผลถ่ายโอนสินทรัพย์ได้จริง กรณีเป็นสินทรัพย์จับต้องได้ หรือมีทะเบียน เช่น เงินสด เงินฝาก กองทุน บัญชีหุ้นสามัญ เครื่องประดับ ทองคำแท่ง เป็นต้น ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่เห็นด้วยตา หากจะตรวจเช็คว่าครบหรือไม่ สามารถพิจารณาด้วยตาได้ แต่ในยุค Digital ที่มีสินทรัพย์มองด้วยตาไม่เห็น หรือต้องใช้ Username Password เช่น E-Wallet คริปโทเคอเรนซี ที่ไม่ได้มี Platform ที่ดูแลโดยสถาบันการเงิน จำเป็นต้องมีการส่งต่อ จะจดใส่กระดาษก็ดูไม่ปลอดภัย ถ้าให้เหมาะสมอาจจะเป็นการระบุไว้ใน External Hard Drive หรือ Cloud ต่าง ๆ กรณีที่ Platform ที่ดูแลโดยสถาบันการเงิน ลักษณะการส่งต่อจะคล้าย ๆ กับบัญชีเงินฝาก E-Saving (บัญชีที่ไม่สมุดบัญชี) ดังนั้น หากทายาทไม่ทราบ Username Password ก็ยังสามารถระบุได้ว่าใครเป็นทายาทและเจ้ามรดกคือใคร กระบวนการส่งต่อจะคล้ายๆ บัญชีเงินฝาก ดังนั้นประเด็นการส่งต่อในยุค Digital สำหรับสินทรัพย์ที่จับต้องด้วยตาไม่ได้ จำเป็นต้องส่งต่อ Username Password มิฉะนั้น ทายาทจะไม่ทราบการมีอยู่ของสินทรัพย์ Digital เลย
ข้อแนะนำสำหรับการส่งต่อสินทรัพย์ Digital
- ควรกระจายการส่งต่อในหลายช่องทาง เช่น กระดาษที่จัดเก็บไว้อย่างดี ทาง External Hard Drive หรือ ระบบCloud
- ช่องทางที่ถูกควบคุมได้จากเจ้าของบัญชี จะส่งต่อทาง External Hard Drive เนื่องจากอยู่ในอุปกรณ์ ซึ่งต้องตรวจสอบอายุการใช้งานให้เหมาะสมกับระยะเวลาส่งต่อ และไม่จำเป็นต้องใช้ WIFI เหมือนกับจัดเก็บใน Cloud และดีกว่าช่องทางจัดเก็บในกระดาษ ซึ่งต้องหาที่จัดเก็บกระดาษที่ใส่ Username Password
- รวบรวมไว้ที่ใดที่หนึ่ง หากจำเป็นต้องบอกทายาทหรือคนที่ไว้ใจ จะได้ส่งต่อได้ตามความประสงค์
การส่งต่อทรัพย์สิน ยังเป็นประเด็นที่ถูกละเลยอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะมาจากความไม่รู้ หรือมองว่ายังไม่ถึงเวลา เป็นเรื่องไกลตัว แต่การจัดการให้เรียบร้อย จะช่วยลดความขัดแย้งของทายาทได้บ้าง และยิ่งสินทรัพย์การลงทุนเป็นสินทรัพย์ Digital ที่ต้องมี Username Password หรือ ต้องแสดงตัวตนว่าเป็นทายาทกับ Platform ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ทำให้การส่งต่อหรือการบอก Username Password มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สินทรัพย์สูญหายไปหรือยังคงส่งต่อให้ทายาทได้ตามเจตนารมณ์เดิม
ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th