ออมช้าแต่รวยชัวร์

โดย ศุภชัย จันไพบูลย์ นักวางแผนการเงิน CFP®

หลายๆ ครั้งที่เราดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ก็มักมีคำถามกับเรื่องต่างๆ มากมายอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆที่บางคนอาจยังไม่ได้คำตอบ บางคนอาจได้คำตอบ แต่ในคำตอบที่ได้อาจมีอะไรที่ซ่อนอยู่แต่ไม่ได้มองให้ลึกลงไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ว่าสาเหตุจริงๆมาจากสิ่งใด คงยากที่จะได้คำตอบที่แท้จริงยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมบอกว่า เราสามารถรวยเป็นล้านได้ บางคนจะเริ่มคิดในใจแล้วว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อปัจจุบันมีรายได้แค่พอประทังชีวิต หรือบางคนเริ่มคิดไปว่า สงสัยจะใบ้หุ้นเด็ดอะไรจะได้ไปซื้อแล้วจะได้กำไรมหาศาลในชั่วข้ามคืน ความมั่งคั่งไม่สามารถเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่หากเกิดจากสะสมมาจากทั้งกำลังความคิด กำลังกาย และกำลังใจ ที่นี้ลองกลับมาทบทวนใหม่กันอีกสักครั้ง ทบทวนใหม่แล้วหาผลลัพธ์ที่เราอยากได้จริงๆ อย่างมุ่งมั่น ว่าเราต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อสร้างความมั่งคั่งเราผ่านการค้นหาตัวตนทางการเงินผ่านมิติเวลา 3 มิติ ดังนี้

• Past ให้นึกย้อนไปสัก 10-15 ปี แล้วมองกลับไปดูที่ต้นเหตุทางการเงินสิครับว่า ทำไมวันนี้เราถึงได้ไม่ประสบความสำเร็จทางการเงินดังที่ใจคิดสักที การดำเนินการในอดีตที่ผ่านมาจะส่งผลมาเป็นผลลัพธ์ในปัจจุบันนี้ เช่น หากวันนี้เรายังไม่มั่งคั่งเลย เก็บเงินยังไม่ได้ มีหนี้สินชำระแทบหมุนไปไหนไม่ได้ ต้องทนอยู่กับสภาพเดิมๆ โดยไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป กังวลเรื่องการเงินแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เป็นต้น ลองดูสิว่าที่ผ่านมาเรามีการดำเนินชีวิตมาอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกิน ติดความหรูอยู่สบายหรือไม่ หรือมีสติกับการใช้จ่ายแค่ไหน ถ้าเราเกิดเอ๊ะ!!! ขึ้นมาถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว สิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปแน่นอน หากแค่เริ่มคิดย้อนกลับไปในอดีตเพื่อหาสาเหตุ


• Present เมื่อได้รู้พฤติกรรมทางการเงินของตนเองว่าที่ผ่านมาเป็นเช่นไร ต่อไปก็ถึงเวลาที่ควรจะต้องเริ่มจดรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน ลองบันทึกด้วย Application Happy Money เป็น Applicationของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราได้เข้าใจตัวตนทางการเงินของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเราได้ทำการกรอกข้อมูลรายรับ-รายจ่ายแล้วจะทำให้เราเข้าใจเส้นทางการเงินว่า การได้เงินและการใช้เงินของเราว่าเป็นอย่างไร แต่อย่าคาดหวังว่าอนาคตจะเปลี่ยนไป หากในวันนี้เราเองยังไม่ได้เริ่มต้น แล้วจะรออะไร ถ้าคิดจะรวย เริ่มเลยวันนี้ หากอดีตที่ผ่านมาพออยากได้อะไรก็ซื้อเลยไม่ได้คิด ถ้าปัจจุบันไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ก็บอกได้ว่าอนาคตก็คงไม่มีเงินเหลือเหมือนปัจจุบันนี้ล่ะ ไม่ได้ต้องเป็นหมอดูก็ทำนายได้ ดังนั้นแล้วเมื่อรู้แล้วว่าตนเองเป็นอย่างไร สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือ “ลด ละ ลบ”
  
  
  • ลด การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ลดการออกไปใช้จ่ายจากเดิมเคยไปกินอาหารนอกบ้านเดือนละ 7-8 ครั้งต่อเดือนก็ลดเหลือ 4-5 ครั้งต่อเดือน เป็นต้น
  
  
  • ละ หรือคิดง่ายๆ ว่า..ไม่จ่ายก็ไม่ตาย...เช่น หากจะซื้อขอใดสักชิ้นถามตัวเองให้แน่ว่าจำเป็นไหม หากถาม 3 ครั้งกับตัวเองแล้วตอบตรงกัน 3 ครั้งว่า จำเป็นก็ซื้อได้ แต่หากตอบตัวเองว่าไม่แน่ใจก็แสดงว่ายังไม่มีความจำเป็นเพียงพอ
  
  
  • ลบ พฤติกรรมทางการเงินที่ไม่ดี ซึ่งมันไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ คงต้องใช้เวลาเร็วหรือนานขึ้นอยู่กับตัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น เวลาว่างๆ ก็นั่ง shopping online เลื่อนดูไปดูมาสุดท้ายก็ซื้อทั้งที่ของที่ซื้อว่าครั้งก่อนก็ยังไม่ได้แกะออกมาจากห่อเลย เป็นต้น อย่างนี้คงต้องใช้เวลาหน่อย เมื่อลด ละ ลบพฤติกรรมได้แล้ว ก็ให้เริ่มปลูกพฤติกรรมทางการเงินที่ดีแล้วพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ผลลัพธ์ที่มั่งคั่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  
  
• Future เมื่อรู้พฤติกรรมทางการเงินตัวเองแล้ว มองเห็นปัจจุบันด้วยใจเป็นธรรมจากบันทึกรายรับ-รายจ่ายแล้ว สิ่งที่สำคัญเลยคือความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจังในการควบคุมตัวเองในเรื่องการใช้จ่ายในแต่ละเดือนต่อจากนี้ไปเพราะเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ และหากเราสามารถหารายได้เพิ่มขึ้นจากศักยภาพที่เรามีหรือหากเราได้รู้ว่าเราเองชื่นชอบหรือคลั่งไคล้อะไรเป็นพิเศษเช่น ชอบต้นไม้ เราสามารถเพาะพันธ์ไม้ขายได้ เป็นต้น สามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ก็จะยิ่งช่วยสร้างความมั่งคั่งได้เร็วขึ้นและที่สำคัญอันดับต่อมาคือความสม่ำเสมอในการเก็บออม ซึ่งหากเราสามารถเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยแต่ถ้าเก็บออมด้วยความสม่ำเสมอบอกได้เลยว่า อนาคตจะประสบความสำเร็จทางการเงินมากแค่ไหนลองดูตัวอย่าง สมมุติว่า รายได้ของเรารวมทั้งปี 300,000 บาท ปัจจุบันอายุ 28 ปี คาดว่าจะเก็บเงินไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60 ปี ผลตอบแทนที่คาดหวังอยู่ที่ปีละ 4% และเราสามารถที่จะเก็บออมเพิ่มขึ้นในแต่ละปี 5% เมื่อเก็บออมสะสมไปถึงอายุ 60 ปี จำนวนเงินที่เก็บได้ สามารถคำนวนมาให้ดูในเบื้องต้นดังตารางด้านล่าง



อัตราการเพิ่มขึ้นแต่ละปี	5%	10%	15%
จำนวนเงินเก็บต่อปี	15,000	30,000	45,000
จำนวนเงินตอนอายุ 60	4,577,486.68	9,154,973.36	13,732,460.04

จากตารางจะพบว่า หากเราเก็บเงินเพิ่มขึ้นในแต่ละปี 5% ในตอนอายุ 60 ปี เราจะมีเงินสะสม 4,577,486.68 บาท ซึ่งเป็นการเดินทางทางการเงินที่ไปแบบช้าๆ แต่ชัวร์ว่ารวยแน่นอน แต่หากใครบอกว่าฉันอยากออมเพิ่มเยอะขึ้นได้ไหมเพราะเห็นแล้ว เข้าใจถึงกลไกความมั่งคั่งแล้วก็จัดหนักเพิ่มเติมไปเลยที่ 15% ต่อปี ผลที่ได้อาจทำให้เราผลลัพธ์ที่ได้เหนือความคาดหมายไปอยู่ที่ 13,732,460 บาท ไม่ว่าจะจัดหนักหรือแบบช้าๆ แต่ชัวร์ก็บอกได้ว่า เรามั่งคั่งแน่นอน

แต่ที่ผ่านมาหลายคนกลับไม่สามารถบรรลุถึงความมั่งคั่งได้เหตุผลหนึ่งพบบ่อยคือ ความไม่เชื่อในพลังของการทบต้นของเงิน เมื่อไม่เชื่อก็ไม่ออมแบบต่อเนื่อง ออมบ้างหยุดบ้าง แต่ที่หนักหน่อยคือ พอออมมาได้จุดหนึ่งเห็นเงินเพิ่มขึ้นเป็นก้อน ก็ดีใจนำเงินที่ได้ถอนออกไปใช้จ่าย สุดท้ายวนกลับมาสู่จุดเดินตั้งต้นใหม่แต่เวลามาไม่ได้เริ่มใหม่นะนาฬิกาชีวิตมันเหลือสั้นลงไป หากเรายังคงการทำสิ่งเดิม ใช้จ่ายแบบเดิม กินอยู่หรูหราแบบเดิม แต่คาดหวังผลลัพธ์สิ่งใหม่ ให้มั่งคั่งขึ้น ให้ร่ำรวยขึ้นคงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเหมือนที่ปรัญญาชาวบ้านที่บอกไว้ว่า “ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดใจไม่ได้”

ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th