โดย กัลยวีร์ โรจน์สุขพัฒนา นักวางแผนการเงิน CFP®
ทุกวันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น บางอย่างกลายมาเป็นที่นิยม เช่น การซื้อขายออนไลน์ การชำระเงินแบบดิจิทัลหรือแบบไร้สัมผัส การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องเข้ามาที่สำนักงาน สามารถสื่อสารและประชุมออนไลน์ได้ มีระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud) ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ในส่วนของธุรกิจการเงินการลงทุนก็เช่นกัน ได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) มาช่วยในการตัดสินใจลงทุน ปัจจุบันมีหลายกองทุนรวมในต่างประเทศที่ใช้ AI ในการบริหาร หรือแม้แต่พัฒนาให้ AI เขียนบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ใช้ในการพยากรณ์ราคาหุ้นหรือดัชนี และช่วยตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์
ในประเทศไทย เริ่มมีบางสถาบันการเงินที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลักในการบริหารจัดการเงินลงทุนของลูกค้าในรูปแบบของกองทุนส่วนบุคคล มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) หลายแห่งที่หันมาใช้ AI ในการช่วยจัดการบริหารพอร์ตลงทุน มีการนำเสนอบริการ Robo Advisor หรือการใช้หุ่นยนต์ AI มาช่วยจัดพอร์ตกองทุนรวมอัตโนมัติ จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผู้ช่วยและเป็นมือใหม่ในการลงทุน หรือนักลงทุนที่ไม่มีเวลา
Robo Advisor ทำงานอย่างไร
Robo Advisor หรือที่เรียกว่า หุ่นยนต์ที่ปรึกษาทางการเงิน หุ่นยนต์ผู้แนะนำ หรือผู้แนะนำการลงทุนอัตโนมัติ ล้วนทำหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือด้านการลงทุนผ่าน Digital Platform ก่อนเริ่มต้นลงทุน โดยนักลงทุนต้องกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น วัตถุประสงค์ในการลงทุน ระยะเวลาในการลงทุน จำนวนเงินที่ต้องการลงทุนครั้งแรก ความต้องการลงทุนต่อเนื่อง (ลงทุนแบบ DCA) และความสามารถในการรับความเสี่ยง เป็นต้น จากนั้นระบบ AI จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการและประเมินว่านักลงทุนเหมาะกับแผนการลงทุนแบบใด
เมื่อเลือกแผนการลงทุนได้แล้ว นักลงทุนสามารถสร้างพอร์ตลงทุนได้ไม่ยาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันทำการ และสามารถตัดเงินลงทุนจากบัญชีธนาคารของนักลงทุนได้เลย โดยเมื่อเวลาผ่านไปพอร์ตที่ดูแลด้วยระบบ Robo Advisor จะถูกปรับสัดส่วนการลงทุนโดยอัตโนมัติให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนเดิมที่แนะนำหรือปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) หากสัดส่วนของพอร์ตลงทุนเบี่ยงเบนไปมากจนถึงค่าที่กำหนด หรืออาจเป็นการปรับสัดส่วนตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ทุก 3 เดือน ทุก 6 เดือน หรือทุก 1 ปี เป็นต้น
ข้อดีของ Robo Advisor
ข้อเสียของ Robo Advisor
จัดพอร์ตเอง หรือ Robo Advisor แบบไหนดีกว่ากัน
นักลงทุนต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นการจัดพอร์ตลงทุนด้วยตัวเองหรือใช้บริการ Robo Advisor ก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีใดจะปลอดภัยกว่าหรือมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนได้น้อยกว่า การลงทุนทั้งสองวิธียังคงมีความเสี่ยงในการลงทุนและมีโอกาสขาดทุนเช่นกัน
ดังนั้น หลักในการเลือกเบื้องต้น คือ พิจารณาจากตัวเอง หากมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนอยู่แล้วหรือต้องการเลือกกองทุนเอง มีเวลาในการศึกษาหาความรู้และติดตามพอร์ตลงทุน รวมถึงสามารถปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) ได้เอง ก็สามารถเลือกจัดพอร์ตเองได้
อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนไม่ได้ทำ Rebalancing หรือไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และหากมองว่าต้องการรับบริการในส่วนนี้ รวมถึงยังต้องการคำแนะนำด้านการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูง ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มากนัก และไม่มีเวลาในการจัดการหรือยังมีประสบการณ์ในการลงทุนน้อย อยากค่อย ๆ เรียนรู้ การเลือกใช้ Robo Advisor อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ในแง่ผลการดำเนินงาน มีข้อมูลการวิเคราะห์ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 จนถึงกลางปี 2563 พบว่า ในจำนวน Robo Advisors 20 ราย มีผู้ให้บริการที่ทำผลตอบแทนสูงสุดที่ 4.71% ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 9.53% ต่อปี หมายความว่า หากลงทุนในกองทุนดัชนี S&P 500 จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าลงทุนใน Robo Advisor ถึงสองเท่า
บทความของ ScienceDirect ยังกล่าวอย่างน่าสนใจว่า กองทุนรวมที่บริหารโดยใช้ AI แม้ไม่ได้ชนะตลาด แต่ก็เอาชนะกองทุนที่บริหารโดยมนุษย์ได้ นั่นเพราะมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า มีความสามารถในการเลือกหุ้นได้ดีกว่า รวมถึงมีอารมณ์และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยกว่า
ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด นักลงทุนควรเข้าใจวัตถุประสงค์ของการลงทุน แม้การลงทุนผ่าน Robo Advisor จะไม่ต้องตัดสินใจเลือกแผนการลงทุน ไม่ต้องเลือกสัดส่วนของพอร์ตลงทุน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องศึกษาเรื่องการลงทุน หรือไม่ต้องติดตามพอร์ตเลย อย่าลืมว่านี่คือเงินลงทุนของตัวเอง ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง หากมีความรู้ความเข้าใจก็จะช่วยให้ลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่เป็นกังวล สามารถลงทุนต่อได้อย่างสม่ำเสมอ เลือกลงทุนเพิ่มเติมในยามที่ตลาดเป็นขาลงเพื่อสะสมหน่วยลงทุน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งใจได้เร็วขึ้นด้วย
ที่มา: www.setinvestnow.com, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand, สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpage และ www.tfpa.or.th