โดย ศิริรัตน์ ตานะเศรษฐ นักวางแผนการเงิน CFP®
ในสังคมไทย ณ ปัจจุบัน เกิดปรากฎการณ์ที่ประชากรไทยมีอัตราการเกิดน้อยและตายช้าลง ทำให้เข้าสู่สถานการณ์สังคมสูงวัย โดยในปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ คือ สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ หรือเป็นสังคมที่มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 14 ของประชากรทั้งหมด เราคาดการณ์กันว่าในปี พ.ศ. 2576 จะมีประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เป็นจำนวนมากถึง 28% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยสิ่งที่น่าวิตกมากกว่านั้นคือ คนไทยมีแนวโน้มอยู่กันแบบโดดเดี่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุการนิยมแต่งงานช้าลง อยู่เป็นโสดมากขึ้น หรือแต่งงานแล้วไม่นิยมมีบุตร ทำให้ขนาดของครอบครัวเป็นครอบครัวลักษณะครอบครัวเดี่ยวคืออยู่กันแบบครอบครัวเล็ก หรืออยู่คนเดียว แนวโน้มสังคมไทยจะมีภาวะอยู่กันอย่างโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี พ.ศ. 2550 มีคนอยู่คนเดียว 2,000,000 คน ในปี พ.ศ. 2558 จำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3,800,000 คน ที่ต้องอยู่คนเดียว ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้หญิง 2,000,000 คน และเป็นผู้ชาย 1,800,000 คน ด้วยสภาพสังคมที่เข้าสู่สังคมแบบสูงวัย และอยู่กันอย่างโดดเดี่ยว ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเราจะพบคนชราต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเราเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว แล้วเราก็เป็นคนหนึ่งที่จะต้องสูงวัยและแก่ตัวไปในอนาคต เราควรเตรียมตัวกันอย่างไรดี คนสมัยใหม่มักจะเริ่มคิดวางแผนเกษียณให้กับตนเอง โดยคิดถึงทางเลือกการฝากชีวิตบั้นปลายไว้ที่บ้านพักคนชรา หรือสถานพักพิงสำหรับคนชรามากขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนคนไม่น้อย ต่อให้เค้าเป็นคนที่แต่งงานมีบุตรแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ค่อยหวังจะพึ่งการดูแลของลูกหลาน เค้าก็มักจะหวังวางแผนเกษียณ โดยพึ่งพิงบ้านพักคนชรา หรือคอนโดสำหรับผู้สูงวัย ฉะนั้นการวางแผนเกษียณที่ดี นอกจากจะต้องคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือนในช่วงเกษียณแล้ว เราก็ต้องคิดถึงการเตรียมพร้อมเรื่องสถานที่พักพิงในยามชราของเราด้วย เพราะถือเป็นเงินก้อนใหญ่อีกก้อนที่สำคัญ ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจลักษณะต่างๆ ของสถานพักพิงสำหรับคนชรา
บ้าน-คอนโดผู้สูงอายุ จะเหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ยังดูแลตัวเองได้ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนเองได้ และยังอยากมีไลฟ์สไตล์เป็นส่วนตัวของตนเอง แต่อยากอยู่ในที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยบ้านและคอนโดเหล่านี้ จะถูกออกแบบโดยเฉพาะให้ผู้สูงอายุมาอาศัยอยู่รวมกัน โดยสร้างให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เหมาะกับผู้สูงวัย เช่น มีบันไดน้อย ทางเดินกว้าง พอให้รถเข็นขึ้นได้ ห้องน้ำมีราวจับ มีที่นั่งสำหรับอาบน้ำ ส่วนกลางมีแพทย์พยาบาลอยู่ประจำคอยอยู่ดูแลกรณีเกิดเหตุป่วยฉุกเฉิน ส่วนกลางมีกิจกรรมเหมาะสำหรับผู้สูงวัย เช่น ฟลอร์เต้นลีลาศ ที่นั่งเล่นบิงโก สวนสุขภาพ ห้องสวดมนต์ ฯลฯ ซึ่งบ้านและคอนโดเหล่านี้ก็จะมีทั้งแบบขายขาด หรือขายสิทธิอยู่อาศัย โดยราคาก็จะแตกต่างกันไป ตามทำเล สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ผู้เขียนเคยสำรวจราคา มีตั้งแต่ห้องละ 200,000 บาท ไปจนถึงราคา 5,000,000 บาท*** ตามพิกัดสถานที่และคุณภาพ
ที่พัก |
ราคา |
หมายเหตุ |
ซีเนี่ยคอมเพล็กซ์กรมธนารักษ์ สมุทรปราการ |
1,820,000 – 3,000,000 บาท |
เข้าอยู่ได้เมื่ออายุ 60 ขึ้นไป |
จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ |
4,300,000 – 8,000,000 บาท |
ราคาขึ้นอยู่กับขนาดห้องพัก |
สวางคนิเวศ สภากาชาดไทย |
650,000 – 1,700,000 บาท |
เฉพาะบุคคลอายุ 55 ปีเป็นต้นไป ค่าบริการรายเดือน 2,500 บาท ไม่สามารถสืบทอดสิทธิ์ในการพักอาศัยไปสู่ลูกหลานได้ ได้แต่เฉพาะคู่สมรส |
เวลเนสซิตี้ บางไทร จ.อยุธยา |
4,700,000 บาท |
พี้นที่ 83 ตร.วา สามารถส่งต่อกรรมสิทธิ์ให้ลูกหลานได้ |
บ้านพักคนชรา มักจะเหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น โดยจะมีคนหาอาหารสามมื้อให้ รวมทั้งมีแพทย์พยาบาลประจำอยู่ในสถานที่แห่งนั้น เพื่อคอยตรวจสุขภาพประจำวัน และคอยพยาบาลประคองการเจ็บป่วยของผู้สูงวัยแต่ละท่าน หรืออาจจะมีกิจกรรมประจำวันเสริมให้ เช่นกายภาพบำบัด สวดมนต์ เต้นรำ ฯลฯ โดยส่วนใหญ่จะมีให้พัก แบ่งเป็นห้องๆ หรือในแต่ละห้องพัก อาจจะมีหลายเตียงอยู่ในห้องเดียวกันตามแต่ราคา โดยจะแบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ คือ แบบที่ต้องมีเงินก้อนจ่ายเงินก่อนเข้าไปอยู่ แต่ราคาต่อเดือนไม่สูงมาก ยกตัวอย่าง เช่น บ้านพักคนชราบางแค ราคาต่อเดือนอยู่ที่ 1,500 บาท ถึง 2,000 บาทต่อเดือน โดยต้องมีค่าแรกเข้า สูงถึง 300,000 บาท หรือแบบที่ไม่ต้องมีเงินก้อนสำหรับแรกเข้า แต่ค่าใช้จ่ายรายเดือนจะสูงกว่าแบบแรก โดยราคาก็ค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่ 16,000 บาท ถึง 50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการดูแลของแต่ละสถานที่
บ้านพักคนชรา |
ราคาต่อเดือน |
ราคาต่อปี |
รวม 10 ปี (ยังไม่คิดรวมเงินเฟ้อ) |
แสนสิริ โฮมแคร์ |
16,000-22,000 บาท |
192,000-264,000 บาท |
1,920,000-2,640,000 บาท |
เอลเดอร์ลี่คลับ เนอร์ซิ่งโฮม |
16,000-50,000 บาท |
192,000-600,000 บาท |
1,920,000-6,000,000 บาท |
โรงพยาบาลผู้สูงอายุ กล้วยน้ำไท 2 |
25,000 บาท |
300,000 บาท |
3,000,000 บาท |
ยู.เอ็น.เอช เนอร์สซิ่งโฮม
|
25,000-48,000 บาท |
300,000-576,000 บาท |
3,000,000-5,760,000 บาท |
ไอแคร์ ซีเนีย โฮม พระรามเก้า |
15,000-25,000 บาท |
180,000-300,000 บาท |
1,800,000-3,000,000 บาท |
ปัจจัยที่พักอาศัยถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต และในเมื่อคุณภาพมักจะขึ้นอยู่กับราคาที่เราจ่าย บ้านพักคนชราก็เช่นกัน หากเราอยากมีคุณภาพชีวิตหลังเกษียณที่ดี เราควรจะมีเวลาเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีกองทุนเกษียณที่เพียงพอ ในคุณภาพที่เราต้องการ การวางแผนเกษียณเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของคนสูงวัย แต่เป็นเรื่องที่คนหนุ่มสาวควรจะต้องเริ่มคิดและเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เรายังมีเวลาในการเตรียมตัว เลือกสภาพแวดล้อม และคุณภาพขีวิตการเกษียณอย่างมีคุณภาพได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเตรียมวางแผนเกษียณของเรา ว่าเราจะเตรียมออมเงินได้อย่างไร ทั้งนี้ผู้เขียนแนะนำว่า สิ่งสำคัญ เราจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ลองจินตนาการว่าเราอยากเกษียณในรูปแบบใดแล้ว เราจะได้เตรียมออมเงินให้ตรงตามเป้าหมาย
ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นต่อมอยากให้ผู้อ่าน ไม่ลืมที่จะคิดถึงการเตรียมเงินเกษียณ โดยคิดถึงทางเลือกที่อยู่อาศัยในยามเกษียณด้วย เพราะถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เราจะต้องใช้ การเลือกที่พักสำหรับเกษียณก็จะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าดูแลรักษาทำความสะอาดที่พัก ค่าเช่ารายเดือน ฯลฯ เงินเกษียณถือว่าเป็นเงินที่จะต้องใช้ก้อนใหญ่ในชีวิต หากเราคิดเริ่มออมช้า เราอาจจะมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ พอถึง ณ วันนั้นแล้ว เราจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะ ณ วันที่เงินหมด เราก็จะหมดแรงทำงานแล้วเช่นกัน
อ้างอิง
***ราคาบ้านพักคนชรา www.checkraka.com/condo/article/119871/
centralb.redcross.or.th/sawangkanives