โดย ธชธร สมใจวงษ์ นักวางแผนการเงิน CFP®
“คุณเหลือเวลาบนโลกใบนี้อีก 100 วัน...” ถ้ามีคนบอกกับคุณแบบนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอะไรต่อ?
สถานการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นจริงกับ Eugene O’Kelly ผู้เป็นอดีต Chairman และ CEO ของบริษัทระดับโลกอย่าง KPMG เขาได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ ว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมองระยะสุดท้ายที่ไม่มีทางจะรักษาให้หายขาดได้ และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนเพียงประมาณ 100 วัน ในขณะที่เขาอายุได้ 53 ปี และอยู่ในจุดที่ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต
ภายหลังจากที่ตั้งสติได้ เขาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต แล้วตัดสินใจเลือกที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ไปกับการ “บอกลา” คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาในช่วงเวลาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คนที่เขารู้จัก ลูกค้า คู่ค้า เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนสนิท ครอบครัว ภรรยาและลูกๆ และเขาได้พบว่า ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขามีความหมาย โดยเขาเขียนบันทึกในหนังสือ Chasing Daylight ของเขาว่า เขาเพิ่งค้นพบช่วงเวลาของความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต และกล่าวว่าชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเขาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดครอบครัว ภรรยา และลูกๆ มาร่วมใช้เวลาที่มีค่านั้นไปด้วยกัน
เรื่องราวเวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตของชายคนนี้ ให้ข้อคิดที่สามารถนำมาใช้กับการวางแผนชีวิต โดยเฉพาะการวางแผนเกษียณ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญช่วงหนึ่งของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
ท้ายที่สุดแล้ว คงไม่มีอะไรมากไปกว่า การตั้งคำถามและหาคำตอบกับตัวเองให้ได้ว่า “อะไรคือสิ่งที่สำคัญในชีวิต”
เมื่อกล่าวถึงการวางแผนเกษียณ สิ่งหนึ่งที่มักจะถูกนึกถึงเป็นลำดับแรกๆ มักจะเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมสินทรัพย์ทางการเงินให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องการ รวมถึงการออมและการลงทุนที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ต่างๆ เหล่านั้น เพื่อให้มีมูลค่าเพียงพอ และการนำผลตอบแทนที่ได้มาเป็นส่วนของการใช้จ่ายในการดำรงชีวิต
แน่นอนว่าสินทรัพย์ทางการเงินเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ถ้าหากขาดความสมดุลกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่สำคัญในชีวิตของเราไป ก็จะทำให้การใช้ชีวิตไม่สมบูรณ์เต็มที่ได้เช่นกัน
นักวางแผนการเงิน Ron Bolis และ Doug Andrew ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ 3 ประเภทสำคัญที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการวางแผนการเกษียณได้แก่ Financial Assets, Intellectual Assets และ Human Assets ซึ่งมีรายละเอียดคือ
1. Financial Assets (สินทรัพย์ที่เป็นตัวเงิน) เป็นสินทรัพย์ที่สามารถประเมินมูลค่าออกมาเป็นตัวเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ เงินลงทุนในกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิต หลักทรัพย์ต่างๆ ของสะสม
2. Intellectual Assets (สินทรัพย์ในด้านทักษะความรู้) ตัวอย่างเช่น ความรู้เฉพาะด้าน ทักษะต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน รวมถึงทักษะที่ได้เรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิต ความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต
3. Human Assets (สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์) ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ปรัชญา แนวทางและค่านิยมในการใช้ชีวิต สุขภาพร่างกาย เครือข่าย ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ความเอื้ออาทร การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
สินทรัพย์ทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนเพื่อเก็บออม ลงทุน และต่อยอดความมั่งคั่งเพื่อให้เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในรูปแบบที่ต้องการ แต่ถ้าหากให้ความสำคัญเพียงแค่สินทรัพย์ที่เป็นตัวเงินแล้ว โอกาสที่จะดูแล รักษาและเสริมสร้างและรักษาความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องในระยาวจะเป็นไปได้ยาก
หากพิจารณาอย่างละเอียดแล้วสินทรัพย์ทั้งกลุ่มที่เป็น Human และ Intellectual Assets จะมีส่วนเสริมเนื่องจากสามารถพัฒนาต่อยอดขึ้นไปได้ตลอด และช่วยสร้างโอกาสในการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เป็นตัวเงินด้วยเช่นเดียวกัน
การมีทักษะความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถนำมาซึ่งโอกาสในการหารายได้ ทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ผ่านสื่อต่างๆ การให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ส่วนความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนก็นำมาทั้งโอกาสทางธุรกิจ และเป็นทรัพยากรสำคัญในการดำเนินการต่างๆ ด้วย รวมถึงการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวที่ดี จะส่งผลโดยตรงกับการใช้ชีวิตที่มีความสุข
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถพิเศษในการเรียนรู้จากประสบการณ์ และบทเรียนชีวิตของผู้อื่น การวางแผนเกษียณที่รอบด้าน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมและวางแผนเกี่ยวกับสินทรัพย์ทั้ง 3 ประเภทนี้ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ใช้ชีวิตอย่างเติมเต็ม มีจุดม่งหมาย และได้รับความสงบสุขอย่างแท้จริง